แจ้งจับท้าวแชร์สาวยังเด็ก
วันที่ 3 มีนาคม 2564 TNN รายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. กลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 คน ได้เดินทางมาที่ ตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต. ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผบก.สส.ภ.6 เพื่อแจ้งความและเร่งรัดคดีกรณีถูกหลอกลวงชักชวนร่วมลงทุนออมเงินผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก โดยมีผู้เสียหายจากทั่ว จ.พิษณุโลก ไม่ต่ำกว่า 300 ราย ในหลายภูมิภาค มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท โดยมีท้าวแชร์เป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังของ จ.พิษณุโลก กำลังศึกษาอยู่คณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 อายุ 22 ปี เปิดเฟซบุ๊กบ้านออมเงินบ้านแชร์ Milk Milk หลังผู้เสียหายร่วมลงทุนกลับไม่สามารถคืนผลกำไรให้ได้ และแจ้งว่าบ้านออมเงินบ้านแชร์ล่มในที่สุด
หนึ่งผู้เสียหายเพศชาย อายุ 33 ปี เปิดเผยว่า ตนเองได้รู้จักบ้านออมเงินบ้านแชร์ มิลล์ มิลล์ ผ่านทางกลุ่มเพื่อน ๆ และช่องทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเปิดมาแล้วประมาณ 2 ปี มีความน่าเชื่อถือเชิญชวนให้มีการลงทุนออมเงินแล้วจะได้ผลตอบแทนดี ตนเองจึงนำเงินร่วมลงทุนไปด้วยจำนวน 50,000 บาท โดยในเวลา 15 วัน จะได้ผลกำไรกลับคืนมาประมาณ 60,000 บาท ผู้เสียหายบางรายเป็นเพียงนักศึกษาแต่ลงทุนไปมากถึง 1 ล้านบาท เรทลงทุนมีหลายแบบ อาทิ ราย 10 วัน ราย 20 วัน ราย 30 วัน ออม 1,000 รับ 1,150 ออม 10,000 รับ 13,000 ออม 70,000 รับ 91,000 เป็นต้น กลับไม่ได้ผลกำไรตามข้อตกลงกลับคืนมา
และสุดท้ายเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา บ้านออมเงินบ้านแชร์ล่มและมียอดเงินที่ต้องคืนให้กับสมาชิกเป็นเงินจำนวน 7 ล้านบาท ท้าวแชร์ได้แจ้งสมาชิกว่าบ้านออมเงินบ้านแชร์ล่มไม่สามารถคืนเงินให้กับสมาชิกได้ สมาชิกทั้งหมดจึงพากันรวมตัวไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวและดำเนินคดีกับท้ายแชร์รายนี้
ขณะที่สาวผู้เสียหาย อีกรายหนึ่ง เล่าว่า รู้จักบ้านออมเงินนี้จากสื่อโซเชียลตอนแรกก็สองจิตสองใจจะลงทุนดีไหม โดยเริ่มต้นลงทุนที่ 10,000 บาท ก็ได้กำไรมา 3,000 บาท จากนั้นก็ลงทุนเรื่อยมาเป็นเวลา 2 เดือน ทั้งแบบ 7 วัน 15 วัน 1 เดือน ซึ่งได้กำไรมาโดยตลอด ก็ตัดสินใจเพิ่มยอดเงิน จนเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ประกาศปิดบ้านแล้วก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก รวมยอดที่เสียไปทั้งสิ้นประมาณ 200,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหลังได้รับเรื่องร้องเรียนตำรวจจะออกหมายเรียก และสอบปากคำผู้เสียหาย รวมถึงรวบรวมเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เส้นทางการเงินธนาคาร ผู้เกี่ยวข้องที่รับโอนเงินทั้งหมด เชื่อว่าหลังจากนี้น่าจะมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะต้องสรุปมูลค่าความเสียหายทั้งหมด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป