คนที่ชอบกินน้ำเต้าหู้บ่อยๆ เป็นประจำทุกวันตอนเช้า
น้ำเต้าหู้ คือ เครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมาอย่างยาวนาน ซึ่งน้ำเต้าหู้ผลิตมาจากถั่วเหลืองโดยผ่านกระบวนการคั้นน้ำจนได้ออกมาเป็นน้ำสีขาว มีกลิ่นหอม และให้ประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักประโยชน์และโทษของน้ำเต้าหู้ให้มากยิ่งขึ้น ใครดื่มบ่อยๆ รีบตามไปดูกันเลย
ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้
1. อุดมด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายสูง ในน้ำเต้าหู้ประกอบไปด้วยสารอาหารที่ร่างกายต้องการอยู่เป็นจำนวนมาก ได้แก่ โปรตีน แคลเซียม ซีลีเนียม สังกะสี ฟอสฟอรัส กรดอะมิโนกว่า 18 ชนิด และธาตุเหล็ก รวมไปถึงวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 เป็นต้น
2. บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง น้ำเต้าหู้นั้นอุดมไปด้วยสารไอโซฟลาโวน ที่ช่วยลดการเสื่อมสภาพของกระดูกได้
3. ช่วยลดและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับน้ำตาลและอีซูลันในน้ำเต้าหูนั้นมีน้อยกว่านมชนิดอื่นๆ เมื่อดื่มแล้วจึงช่วยจึงลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน และยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติมากยิ่งขึ้น
4. มีไขมันอิ่มตัวที่เหมาะสม น้ำเต้าหู้ประกอบไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว 63% ไขมันอิ่มตัว 15% และไขมันไม่อิ่มตัวชนิดเดี่ยว 24% ทำให้ไม่เกิดไขมันสะสมตามร่างกายจนเป็นผลเสีย นอกจากนี้ ยังมีกรดไลโนเลอิก (Linoleic) และกรดไขมันอื่นๆ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจลงได้
นอกจากประโยชน์ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้ยังมีอีกมาก ได้แก่ ช่วยลดอาการท้องผูก ลดอาการวัยทอง บำรุงสมอง บำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่งขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ และยังทำให้สร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงอีกด้วย
โทษของน้ำเต้าหู้ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
1. เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในผู้หญิง เมื่อร่างกายได้รับปริมาณโปรตีนที่มากเกินไป ย่อมทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้และยังทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตขึ้นง่ายด้วย
2. เสี่ยงต่อการเกิดน้ำตาลในเลือดสูง เพราะในน้ำเต้าหู้หลายเจ้ามีการปรุงแต่งรสให้อร่อยถูกปากผู้บริโภค ดังนั้น หากดื่มน้ำเต้าหู้ที่มีความหวานหรือน้ำตาลสูง ย่อมทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคความดันในภายหลังได้
3. ส่งผลกระทบต่อต่อมไทรอยด์ สำหรับต่อมไทรอยด์นั้นเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการควบคุมอารมณ์ต่างๆ แต่น้ำเต้าหู้กลับส่งผลต่อการปิดไอโอดีนซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญของต่อมไทรอยด์ ทำให้คุณมีอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย รู้สึกอ่อนเพลียง่าย เบื่ออาหารและเกิดความเครียดขึ้นง่าย
4. เสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆ หลายโรค รู้หรือไม่ว่าถั่วเหลืองที่เป็นวัตถุดิบในการทำน้ำเต้าหู้นั้น มักจะมีสารไกลโฟเสทที่ติดมาอยู่มากน้อยแตกต่างกันในแต่ละสายพันธุ์ แต่จะพบได้มากในถั่วเหลืองจีเอ็มโอ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ กว่า 20 โรค เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง ลำไส้แปรปรวน การติดเชื้อในลำไส้ อัลไซเมอร์ สมองเสื่อม พาร์กินสัน ออทิซึ่ม หลอดเลือดในสมอง กล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพาต อุจจาระร่วง และไตวาย
5. มีแนวโน้มต่อการเป็นหมัน จากงานวิจัยหลายตัวทำให้พบว่าการดื่มน้ำเต้าหู้ปริมาณมาก ส่งผลให้ต่อมไร้ท่อและฮอร์โมนเอสโทรเจนในผู้ชายทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นหมันหรือมีบุตรได้ยากในอนาคต
อย่างไรก็ตาม น้ำเต้าหู้ก็ยังคงถือว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอีกชนิดที่หลายคนเลือกดื่ม แต่แน่นอนว่าควรจะเลือกดื่มอย่างถูกต้องและพอดีในแต่ละวัน โดยควรเลือกน้ำเต้าหู้สดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล เพื่อช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ โดยไม่มีโรคภัยต่างๆ มารบกวน