เพื่อนบ้านอยู่เฉยไม่ไหว ขอพูดบ้าง
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ทีมงานมุมข่าวได้รับรายงานว่า จากเหตุการณ์สองยายตกปลาคูน้ำข้างถนนเพื่อประทังชีวิตที่มีการนำเสนอข่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 และได้เปิดรับบริจาคมีคนโอนเงินมาช่วยเหลือราว 590,000 บาท หลังจากเวลาผ่านไปชีวิตของสองยายกลับแย่ลงกว่าเดิม ลูกสาวมารับไปอยู่ด้วย 3 เดือนเงินยายหมด ลูกสาวไล่กลับให้มาอยู่ห้องแถวเช่นเดิมโดยไม่ใยดี
ภาพจาก รายการ ข่าวอรุณอมรินทร์
ทางด้านนางสาวบุญยิ่ง บุตรสาวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่นางสาลี่พูดนั้นไม่เป็นความจริง ตนได้นำเงินจำนวนเกือบ 200,000 บาทมาต่อเติมบ้านจริง แต่จำนวนเงินที่เหลือกว่า 400,000 บาทนั้นตนได้นำมาใช้จ่ายภายในบ้าน ทั้งค่าอาหาร ค่ายา ค่าเดินทางไปหาหมอและอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนเรื่องผลักแม่จนล้มนั้นเป็นเพียงการแย่งโทรศัพท์กันเท่านั้น เพราะทุกครั้งที่ทะเลาะกันนางสาลี่ชอบโทรศัพท์ไปฟ้องคนอื่นและตนก็ไม่ได้เป็นคนไล่แม่แต่แม่ย้ายออกไปเอง
ส่วนนายธวัช ประเสริฐสังข์ อายุ 55 ปี เพื่อนบ้านของนางสาลี่บอกว่า หลังจากนางสาลี่ย้ายออกไปอยู่กับลูกสาว ตนก็แวะไปเยี่ยมหานางสาลี่บ้าง แต่ทุกครั้งที่ไปหากเจอนางสาวบุญยิ่งจะชอบไล่ตนให้กลับบ้านไม่อยากให้มาเยี่ยม แต่นางสาลี่ชอบบ่นกับตนว่าอยากกลับไปอยู่ที่เดิม จนสุดท้ายนางสาลี่ได้ขอร้องให้ตนไปช่วยขนของในระหว่างที่ขนของนางสาวบุญยิ่งก็ด่าทอตนและนางสาลี่ตลอดเวลา