โดนไล่ออกจากบ้าน หลังเงินหมด

โดนไล่ออกจากบ้าน หลังเงินหมด

หลายคนอาจจะยังจำกันได้สำหรับ สองย ายตกปลาสู้ชีวิต ยอดคนโอนช่วยเหลือกว่า 6 แสนบาท ลูกสาวมารับไปอยู่ด้วย ผ่านไป 3 เดือนเงินหมด ถูกไล่กลับมาอยู่ห้องเช่าเหมือนเดิม จากเหตุการณ์สองย ายตกปลาคูน้ำข้างถนนเพื่อประทังชีวิตที่มีการนำเสนอข่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 และได้เปิดรับบริจาคมีคนโอนเงินมาช่วยเหลือราว 590,000 บาท หลังจากเวลาผ่านไปชีวิตของสองย ายกลับแย่ลงกว่าเดิม ลูกสาวมารับไปอยู่ด้วย 3 เดือนเงินย ายหมด ลูกสาวไล่กลับให้มาอยู่ห้องแถวเช่นเดิมโดยไม่ใยดี

ภาพจาก ข่าวอรุณอัมรินทร์

ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องจาก นางสาลี่ นวลจันทร์ อายุ 78 ปี เปิดเผยว่าเมื่อประมาณปลายปีที่ผ่านมา นางสาวบุญยิ่ง อายุ 55 ปี เป็นบุตรสาวของตนหลังทราบข่าวก็อาสาจะมารับไปอยู่ด้วย แต่จะขอเงินไปต่อเติมบ้านก่อนเป็นจำนวนเงิน 170,000 บาท เมื่อต่อเติมเสร็จประมาณเดือนพฤศจิกายน ลูกสาวก็มารับตนรวมถึงนางมณี แก้วอุไร อายุ 85 ปี และนายบุญหลงแก้วอุไรอายุ 41 ปี ไปอยู่ด้วย แต่ระหว่างที่อยู่ด้วยนั้น ลูกสาวได้พาตนไปธนาคารเพื่อทำบัตรเอทีเอ็มและยึดบัตรเอทีเอ็มของตนไป โดยที่ตนไม่รู้เลยว่าลูกสาวนำเงินที่รับบริจาคมาไปใช้ทำอะไรบ้างหรือเปล่า หากตนจะใช้เงินก็ต้องขอผ่านลูกสาวเพียงอย่างเดียว

น่าสงสารมาก

บางครั้งที่ทะเ ล าะกันลูกสาวถึงขั้นทำ ร้ า ยตน ผลักตนจนหง ายท้ อ งศีรษะกระ แ ท ก พื้น จับตนหมุนกับพื้นจนเวียนหัวอ าเ จี ย น ซึ่งตนอึดอัดมากจนเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนจึงนำสมุดบัญชีไปอายัดบัตรเอทีเอ็มและตรวจสอบยอดพบว่าเหลือเงินเพียง 19,953 บาท จนลูกสาวรู้ว่าตนอายัดบัตรเอทีเอ็มก็มีปากเสียงกันอีก

ซึ่งลูกสาวได้พูดจาด่ า ทอตนไล่ให้ไป ต า ย บ้าง ไล่ให้กลับมาอยู่ห้องเช่าบ้าง แถมพูดว่าตัดแม่ตัดลูกกันไปเลย ตนน้อยใจมากจนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจึงตัดสินใจให้เพื่อนบ้านช่วยขนของกลับมาอยู่ห้องเช่าที่เดิม

ทางด้านนางสาวบุญยิ่ง บุตรสาวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่นางสาลี่พูดนั้นไม่เป็นความจริง ตนได้นำเงินจำนวนเกือบ 200,000 บาทมาต่อเติมบ้านจริง แต่จำนวนเงินที่เหลือกว่า 400,000 บาทนั้นตนได้นำมาใช้จ่ายภายในบ้าน ทั้งค่าอาหาร ค่าย า ค่าเดินทางไปหาหมอและอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนเรื่องผลักแม่จนล้มนั้นเป็นเพียงการแย่งโทรศัพท์กันเท่านั้น เพราะทุกครั้งที่ทะเ ล าะกันนางสาลี่ชอบโทรศัพท์ไปฟ้องคนอื่นและตนก็ไม่ได้เป็นคนไล่แม่แต่แม่ย้ายออกไปเอง

ส่วนนายธวัช ประเสริฐสังข์ อายุ 55 ปี เพื่อนบ้านของนางสาลี่บอกว่า หลังจากนางสาลี่ย้ายออกไปอยู่กับลูกสาว ตนก็แวะไปเยี่ยมหานางสาลี่บ้าง แต่ทุกครั้งที่ไปหากเจอนางสาวบุญยิ่งจะชอบไล่ตนให้กลับบ้านไม่อยากให้มาเยี่ยม แต่นางสาลี่ชอบบ่นกับตนว่าอยากกลับไปอยู่ที่เดิม จนสุดท้ายนางสาลี่ได้ขอร้องให้ตนไปช่วยขนของในระหว่างที่ขนของนางสาวบุญยิ่งก็ด่ าทอตนและนางสาลี่ตลอดเวลา

ขอบคุณ amarintv

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ