เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหินซ้อน รับแจ้งเหตุ มีคนปีนขึ้นไปอยู่บนยอดเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณบ้านห้วยสำโรง หมู่ที่ 11 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ และประสานหน่วยกู้ภัย และพร้อมรถกระเช้าของเทศบาลตำบลเขาหินซ้อน เข้าช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุเป็นเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์สูงประมาณ 50 เมตร

ที่ตั้งอยู่กลางไร่มันสำปะหลังใกล้เคียงบ้านชาวบ้าน ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยกลางคนได้พยายามปีนอยู่บนเสาส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่อง ทราบชื่อต่อมาชื่อ นายทองวัน แสงแก้ว อายุ 58 ปี

เจ้าหน้าที่พยายามพูดเกลี้ยกล่อม เพื่อให้ชายดังกล่าวลงมาด้านล่าง แต่ไม่มีทีท่าจะยอมลงมาแถมกลับได้ปีนเสาส่งสัญญาณขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ไปตามตัวลูกชายพร้อมกับภรรยา เพื่อมาช่วยเกลี้ยกล่อม ส่วนเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ก็พยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อม ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็ได้นำรถกระเช้าของเทศบาลมารอ

หลังจากใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง นายทองวัน จึงยอมไต่เสาส่งสัญญาณกลับลงมาขึ้นรถกระเช้าของเจ้าหน้าที่ นำตัวลงมาด้านล่างได้อย่างปลอดภัย และพาไปนั่งพักดื่มน้ำก่อนจะได้มีการสอบถามพูดคุยถึงสาเหตุการก่อเหตุ

พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ เพ็ชรศักดิ์ ผู้กำกับการ สภ.เขาหินซ้อน จึงได้เข้าไปพูดคุยสอบถาม จึงทราบว่า นายทองวัน เป็นคนจังหวัดสุรินทร์ แต่ได้ย้ายครอบครัวมาทำงาน ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก่อนก่อเหตุได้ดื่มเหล้าแล้วก็มีความน้อยเนื้อต่ำใจกับโครงการของรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชนในโครงการ เราชนะ ว่าตนเองไม่ได้รับสิทธิ์

เนื่องจากตนเองไม่มีสมาร์ตโฟนเหมือนอย่างคนอื่นเขา มีแต่เพียงโทรศัพท์ปุ่มกดจึงไม่สามารถลงทะเบียนได้ จึงเกิดความน้อยใจว่ารัฐบาลช่วยคนจนไม่ทั่วถึง จึงได้มาก่อเหตุปีนเสาส่งสัญญาณเพื่อเรียกร้องให้ไปถึงรัฐบาลเพื่อหาทางเยียวยาช่วยคนจนอย่างทั่วถึงกว่านี้ พ.ต.อ.ณรงค์ ก็ได้ปลอบใจพร้อมกับควักกระเป๋านำเงินส่วนตัวมอบให้นายทองวัน เป็นเงิน 1,000 บาท ก่อนจะนำตัวไปส่งบ้านพัก เพื่อกลับไปพักผ่อนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ลุงปีนเสาโทรศัพท์ น้อยใจไม่ได้เงิน เราชนะ เพราะไม่มีสมาร์ตโฟน เจ้าหน้าที่เกลี่ยกล่อมลงมาได้ และได้ให้เงินไป 1,000 บาท

เรียบเรียง mumkhao