เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 31 มกราคม 2564 ร.ต.อ.วีทวัฒน์ วรรณทวี ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้กุฏิไม้สักทอง ภายในวัดปทุมวัน เลขที่ 29 หมู่ที่ 5 ต.หลักชัย อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลเทพมงคล องค์การบริหารส่วนตำบลบัวปากท่า เทศบาลตำบลลาดบัวหลวง และเทศบาลตำบลสามเมือง เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุภายในวัดปทุมวัน พบประชาชนกว่า 500 คน ยืนมุงดูไฟกำลังลุกโหมเผาไหม้กุฏิพระชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นกุฏิของพระลูกวัด โดยเจ้าอาวาส พระลูกวัด และสามเณรภายในวัด กำลังช่วยกันนำถังดับเพลิง 10 ถัง และถังใส่น้ำ มาทำการฉีดพ่นและดับไฟ ระหว่างรอรถดับเพลิงมาทำการดับไฟ

จากการสอบถามพระครูวิศาลพัฒนกิจ เจ้าอาวาสวัดปทุมวัน เจ้าคณะตำบลคู้สลอด ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ในช่วงเวลา 10.50 น. ซึ่งเจ้าอาวาสและพระสงฆ์ทั้งวัด กำลังสวดมนต์ เนื่องจากมีญาติโยมมาทำบุญครบรอบวันเสียชีวิตของคนในครอบครัว โดยประกอบพิธีอยู่บริเวณศาลาเอนกประสงค์ชั้นล่างที่ประกอบพิธี ขณะกำลังสวดให้พรได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดบริเวณคัตเอาต์ไฟ หน้ากุฏิพระหลังที่ 1 บริเวณนั้นมีผ้าไตรจีวรวางกองอยู่จำนวนมาก

ทำให้เกิดประกายไฟตกลงไปไหม้ผ้าไตรจีวรที่วางกองอยู่ จึงรีบนำถังดับเพลิงมาดับไฟ แต่ไม่สามารถดับไฟได้ จึงทำให้ไฟลุกลามไปไหม้อีก 2 กุฏิที่อยู่ติดกัน โดยกุฏิทั้ง 3 หลังดังกล่าว เป็นไม้สักทองทุกหลัง สร้างมาแล้วประมาณ 15 ปี คาดว่ามูลค่าความเสียหายครั้งนี้ มากกว่า 10 ล้านบาท ตนในฐานะเจ้าอาวาสรู้สึกเสียใจกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่สามารถช่วยดับไฟไว้ได้ทัน ต่อจากนี้ไปก็คงเก็บของที่พอใช้ได้มาบูรณะเพื่อสร้างกุฏิให้กลับมาใช้ได้ดังเดิมต่อไป

สอบถาม นางสาวขวัญฟ้า จะละ อายุ 45 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้ข้อมูลว่า ขณะที่ตนและคนในครอบครัวกำลังรับพรจากพระคุณเจ้า เนื่องจากได้มาทำบุญครบรอบวันเสียชีวิตของคุณพ่อ ซึ่งได้เสียชีวิตมาแล้ว 3 ปี ขณะนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดบริเวณคัตเอาต์ไฟ หน้ากุฏิพระหลังที่ 1 จึงลุกขึ้นไปดู พบบริเวณคัตเอาต์ไฟ มีเปลวไฟลุกไหม้ ลามไปไหม้สายไฟสีดำหน้ากุฏิพระ

ทำให้มีหยดของเปลวไฟ หยดใส่จีวรพระที่กองอยู่และหยดติดไม้พื้นกระดาน ไม้ฝาผนังห้องที่เป็นไม้สัก ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ตนเองและคนในครอบครัว เจ้าอาวาส คณะสงฆ์ จึงรีบวิ่งไปช่วยดับไฟและขนย้ายสิ่งของ แต่ก็ไม่สามารถดับไฟได้ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าดับเพลิงมาทำการดับไฟ โดยใช้เวลาดับไฟอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง ไฟจึงดับลง

ขณะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลลาดบัวหลวง กำลังฉีดน้ำเพื่อดับไฟอยู่บนหลังคากุฏิพระอยู่นั้น หลังคาเกิดพังลงมาทั้งหลัง เนื่องจากไฟได้ไหม้คานที่รองแผ่นพื้นกระดาน ทำให้ นายขวัญชัย พานแก้ว อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลลาดบัวหลวง ตกลงมาพร้อมกับหลังคา ร่างกระแทกกับพื้นอย่างแรง ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจุดอำเภอลาดบัวหลวง รีบนำส่งโรงพยาบาลลาดบัวหลวงทันที เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บบริเวณกลางหลัง และหัวเข่าด้านซ้าย

ด้าน ร.ต.อ.วีทวัฒน์ วรรณทวี ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของคดีได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า จากการได้ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุไฟไหม้กุฏิพระไม้สักทอง ทั้ง 3 หลัง เบื้องต้นได้สอบถามเจ้าอาวาสวัดปทุมวัน และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้ให้ข้อมูลตรงกัน คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากอุปกรณ์ไฟชำรุด ในวันนี้ได้ทำการล้อมปิดกั้นจุดที่เกิดเหตุไว้ก่อน ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุเด็ดขาด โดยวันพรุ่งนี้กองพิสูจน์หลักฐาน จ.พระนครศรีอยุธยา จะเข้ามาหาสาเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เป็นการสูญเสียมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เจ้าอาวาสนั่งดูน้ำตาซึม ไม่สามารถช่วยดับไฟได้ทัน คาดไฟฟ้าลัดวงจร ตำรวจเตรียมประสาน พฐ.พิสูจน์อีกรอบ

เรียบเรียง mumkhao