ลุงพล โชว์พาวฉะยูทูเบอร์

ลุงพล โชว์พาวฉะยูทูเบอร์

กรณีนายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีน้องชมพู่ ได้แสดงอาการคุ-กคามสื่อมวลชน จนเกิดเป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลุงพล หลังจากที่ถูกนำเข้าเครื่องจับเท็จ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 25 ม.ค. 64 เวลา 10.00 น. ทีมข่าวรายงานที่วัดกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดมุกดาหาร ได้เดินทางมาเพื่อสอบถามข้อมูลจากยูทูเบอร์ ซึ่งลุงพลและเหล่ายูทูเบอร์ได้เดินทางมาลงทะเบียนและเข้าไปให้ข้อมูล

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

เมื่อมาถึงลุงพลมีการประกาศให้ยูทูเบอร์ทุกช่องเลิกการไลฟ์สด และไม่ให้ถ่ายคลิป เพื่อความเรียบร้อยในการสอบถามข้อมูลในเรื่องที่ถูกชาวบ้านร้องเรียน และเพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดสิทธิ์ของชาวบ้านเมื่อยูทูเบอร์ออกนอกเขตพื้นที่บ้านลุงพล

ด้านนายประหยัด คุณมี ปลัดอาวุโสอำเภอดงหลวง จ.มุกดาหาร ได้เชิญตัวแทนยูทูเบอร์ 4 ช่อง และลุงพลป้าแต๋น มานั่งเพื่อให้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ โดยการสอบถามข้อมูลในครั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่บันทึกเสียง แต่ให้บันทึกภาพในระยะไกลได้ โดยนั่งพูดคุยประมาณ 15 นาที ลุงพลก็ออกมาเชิญยูทูเบอร์คนอื่น ๆ ให้เข้าไปให้ข้อมูล ซึ่งไม่มีการบังคับให้ใครเข้าไป แต่ให้เข้าไปตามสมัครใจ

ขณะเดียวกัน ก็มีตัวแทนยูทูเบอร์และลุงพลออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน โดยนายนิคม พละสิทธิ์ ยูทูเบอร์เจ้าของช่องหนึ่ง ซึ่งเป็นยูทูเบอร์ที่เดินทางมาจาก จ.ปทุมธานี และมาอยู่หมู่บ้านกกกอกกว่า 3 เดือนแล้ว เปิดเผยว่า วันนี้ยูทูเบอร์บ้านลุงพลทุกช่องได้มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนเป็นตัวแทนยืนยันได้ว่ายูทูเบอร์ทุก ๆ ช่องถ่ายอยู่ในบริเวณบ้านลุงพล ไม่ได้ไปคุกคามคนในหมู่บ้าน

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทั้งนี้งานส่วนใหญ่จะถ่ายกิจวัตรประจำวันของลุงพล และถ่ายความคืบหน้าการสร้าพญานาค ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าพวกเราไปคุกคามยูทูเบอร์ตรงไหน และยืนยันว่าจะติดตามลุงพลเหมือนเดิม ซึ่งเราทำอาชีพนี้ด้วยใจรัก เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของลุงพลให้คนที่สนใจรับทราบ จึงอยากให้เข้าใจด้วยว่าพวกตนไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และยืนยันว่าจะอยู่ ในส่วนของรายได้ตนก็ไม่ทราบว่าเขาได้เงินเท่าไร แต่ตนนั้นยังไม่ได้เงิน

ด้านลุงพล เปิดเผยว่า กรณีที่มีเรื่องยูทูเบอร์จะต-บนั้น ตนก็ได้สอบถามยูทูเบอร์และทราบว่ากรณีนั้นเป็นการอ่านคอมเมนต์ของคนดูที่เข้าคอมเมนต์ ซึ่งยูทูเบอร์ที่ได้อ่านคอมเมนต์ว่าจะต-บ และพูดออกไป ทำให้คนเข้าใจผิด ยืนยันว่าไม่ใช่การข่มขู่ เชื่อว่ายูทูเบอร์ทุกคนมีวุฒิภาวะ และน่าจะคิดได้ว่าต้องอ่านคอมเมนต์ในลักษณะไหน ซึ่งยูทูเบอร์ของแต่ละช่องก็มีชาวบ้านบางคนที่เขาสนิทและเดินไปหากัน อย่างไรก็ตาม ตนเจอกับคำหยาบคอมเมนต์ว่าละเป็นพัน ๆ คอมเมนต์ ซึ่งตนจะเตือนไม่ให้ยูทูเบอร์อ่านคอมเมนต์ในด้านลบ และให้อ่านในด้านดี ๆเท่านั้น

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่หน้าบ้านลุงพล ก็ได้มีการเปิดเพลงเต้นเพื่อคล้ายเครียด ซึ่งลุงพลก็ได้เต้นร่วมกับเหล่ายูทูเบอร์ หลังจากเต้นเสร็จก็จะเตรียมตัวไปที่วัดกกกอก เพื่อเข้าพบฝ่ายปกครองของจังหวัดเพื่อเข้าอธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่มีชาวบ้านเข้าร้องเรียนว่าเหล่ายูทูเบอร์ได้คุกคามชาวบ้าน

เวลา 14.30 น. ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้เดินทางมาถึงสนามบิน จ.สกลนคร โดยมีลุงพลและป้าแต๋นมารอรับ ซึ่งทันทีที่มาถึง ทนายตั้มและลุงพลก็ได้เข้ามากอดกัน หลังจากนั้นทนายษิทรา เปิดเผยสั่น ๆ ว่า จะขอไปพูดคุยกับลุงพลให้เสร็จก่อน เนื่องจากตอนนี้ยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ และจะแถลงกับสื่อมวลชนในภายหลัง

ต่อมา เวลา 17.00 น. ทนายษิทรา และลุงพล ป้าแต๋น ได้ร่วมแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในจ.สกลนคร โดยทนายษิทรา เปิดเผยว่า เมื่อได้พูดคุยกับลุงพลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่าหากตนจะไปหมู่บ้านกกกอกจะต้องกักตัว 14 วัน เพราะมาจากพื้นที่เสี่ย ง ซึ่งตนเป็นทนายความ ต้องทำตามกฎหมายและคำสั่งของจังหวัด แต่ตนรู้สึกน้อยใจที่ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เพราะไม่สะดวกกักตัว เนื่องจากยังมีคดีที่ต้องทำอีกจำนวนมาก จึงตัดสินใจไม่เข้าพื้นที่ จ.มุกดาหาร จนกว่าจังหวัดจะคลายล็อก

ทนายษิทรา กล่าวต่อว่า ตนต้องขอโทษไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ถึงกรณีโพสต์เฟซบุ๊กและอาจจะกระทบต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยอมรับว่าโพสต์ด้วยอารมณ์ เพราะขณะนั้นน้อยใจที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเป็นการส่วนตัวแล้ว บอกว่าไม่ต้องกักตัว แค่มารายงานตัวในแอปพลิเคชันหมอชนะทุกวัน และตนก็ไปตรวจโควิด-19 ให้ด้วย ซึ่งมีผลเป็นลบ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเข้าจังหวัดได้ ซึ่งคาดว่าอาจเพราะการสื่อสารผิดพลาด ตอนนี้ก็อาจจะต้องเปลี่ยนแผนก่อน รอให้เข้าพื้นที่ได้และเข้าไปหาความจริงว่าน้องชมพู่จากไปได้อย่างไร ด้านลุงพล เปิดเผยว่า วันนี้ได้คุยกับทนายตั้มเป็นการส่วนตัว ก็มีปัญหาการเข้าพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ถูกกดดันจากหลาย ๆ ด้าน ก็ต้องขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และวันที่ 26 ม.ค.64 ก็อาจจะพาทนายตั้มไปเที่ยวที่พระธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร แทนการลงพื้นที่กกกอก จ.มุกดาหาร

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทนายษิทรา ระบุว่า คดีน้องชมพู่ตนขอเวลาพูดคุยกับลุงพล ส่วนพยานคนอื่นนั้น ตนขอเข้าพื้นที่ก่อนจึงจะเข้าไปคุยกับพยานในพื้นที่ และลุงพลก็ยืนยันว่าไม่มีทางที่น้องชมพู่จะขึ้นไปเองได้ ส่วนนี้ตนต้องขึ้นเขาไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองก่อนถึงจะเชื่อและพิจารณาอีกครั้ง กรณีที่ตำรวจบอกว่า เส้นผมของน้องชมพู่ถูกตัด ส่วนตัวได้พูดคุยกับนักวิชาการแล้ว ยืนยันว่าในประเทศไทยยังไม่มีเครื่องมือที่จะตรวจสอบ หรือยืนยันได้ว่าเส้นผมถูกตัด หรือขาดเองโดยธรรมชาติ ตำรวจก็อาจจะคาดการณ์ไปเองหรือไม่ ซึ่งตนทราบว่าสาเหตุที่ตำรวจยังไม่ออกหมายจับ เพราะยังคงรวบรวมหลักฐาน และถ้าหมายจับเป็นลุงพล ตนก็จะช่วยประกันตัวลุงพลและสู้คดี แต่ทั้งนี้ตนต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจะรับทำคดีหรือไม่ ซึ่งตนก็มีแพทย์มีตรวจสอบว่าน้องชมพู่ตายเองหรือไม่ และดูเรื่องโภชนาการว่าน้องชมพู่กินอะไรไปบ้าง เดินได้กี่ชั่วโมงและสารอาหารเพียงพอหรือไม่

ลุงพล กล่าวด้วยว่า ยังเชื่อว่าทำน้องชมพู่ตัวจริงคงนอนไม่หลับ ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่คนในสังคมอยากรู้มากที่สุด ทนายษิทรา ยังบอกอีกว่า กรณีมีคนโอนเงินเข้ามูลนิธิ มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนมีจุดประสงค์ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรม และบรรยายกฎหมาย ใครที่จะช่วยเหลือและโอนเงินเข้ามูลนิธินั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่การจะเอาเงินมาข่วยลุงพลหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่คณะกรรมการ และลุงพลก็ยังไม่ร้องขอให้มูลนิธิช่วย และส่วนคนที่โอนเงินเข้ามูลนิธิ แต่มีจุดประสงค์จะช่วยลุงพลคนเดียว และต้องการเงินคืนตนก็จะนำเงินส่วนตัวคืนให้ และยืนยันว่าลุงพลไม่ได้ขอให้ตนทำคดีฟรี

อ่านเพิ่มเติม

คลิป

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ