วันที่ 24 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก กู้ภัยบูรพานนทบุรี ได้โพสต์ภาพสะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ขระชายพิการนั่งรถวีลคนหนึ่งพยายามแชร์โบกแท็กซี่เกือบ 10 คัน แต่ไม่มีใครรับ สุดท้ายหลังจากที่พยายามโบกอยู่นานก็มีแท็กซี่ 1 คันที่ยอมไปส่งชายพิการคนดังกล่าว โดยไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนขับแท็กซี่ถึงปฏิเสธรับส่งผู้โดยสารพิการ ทั้ง ๆ ที่มีเงินจ่ายเหมือนลูกค้าปกติทั่วไป จนทำให้เรื่องดังกล่าวถูกถูกถึงเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์

ขณะเดียว ช่อง 3 ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุแล้วพบว่าเป็นทางม้าลาย บริเวณหน้าเทศบาลนครปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมสอบถามความคิดเห็นของโชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่งที่จอดรอผู้โดยสารอยู่ริมถนนอยู่ใกล้กับเทศบาลนครปากเกร็ดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยนายสำรวย โชเฟอร์เเท็กซี่ กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วหากตนเองเจอคนพิการก็จะรับตลอด และหากรถตนจอดสะดวกไม่เกะกะทาง ตนจะลงไปช่วยผู้โดยสารตลอด ไม่ว่าจะพิการหรือไม่พิการ ซึ่งบริเวณนี้มีคนตาบอด เเละพิการเป็นจำนวนมาก ส่วนคันอื่นตนไม่ทราบเหมือนกันว่าจะรับหรือไม่ แต่อยากฝากถึงเเท็กซี่คันอื่น ๆ ว่า ไม่อยากให้เลือกรับผู้โดยสาร เพราะช่วงนี้เงินทองหายากเเละผู้โดยสารเเทบจะไม่มี ควรที่จะช่วยกัน ถ้าเรามีน้ำใจช่วย บางทีผู้โดยสารก็ให้เงินเกินมาเป็นค่าตอบเเทน

ด้านนางจักรวาลแก้ว อายุ 59 ปี ผู้พิการทางสายตา ก็เล่าว่า ตนเคยถูกคนขับเเท็กซี่ปฏิเสธและให้ลงจากรถ เพราะตนตาบอดมองไม่เห็นทางทำให้บอกทางไม่ถูก นอกจากนี้คนขับแท็กซี่ยังพูดดูถูกอีกว่า "ถ้าเป็นขอทานไม่รับ ถ้าเป็นหมอนวดจะรับ"

ล่าสุด ตนเพิ่งโดนเเท็กซี่ทิ้งกลางทางขณะกำลังเดินทางไปที่ จ.อุทัยธานี และโดนขับรถวนไป-มา เพื่อให้ค่ามิเตอร์ราคาสูงขึ้น จากนั้นเเท็กซี่คันนี้ก็ทิ้งตนไว้บนสะพาน แล้วบอกว่า 'ถึงแล้ว' ตนจึงได้เดินลงจากรถ และมีน้องนักศึกษาพลเมืองดี เดินเข้ามาบอกทางตน จึงได้รู้ว่า ถูกคนขับแท็กซี่หลอกว่าถึงที่หมายแล้วทำให้ตนรู้สึกเสียใจ เเละน้อยใจเป็นอย่างมาก

โพสต์ดังกล่าว

ที่มา เพจ กู้ภัยบูรพานนทบุรี