เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า ประเทศเยอรมนี กำลังประสบวิกฤตอย่างหนัก ภายหลังจากมียอดผู้เสียชีวิตจาก โควิด 19 รายวัน สูงมากกว่าวันละ 1,000 ราย ทำให้เกิดปัญหาโลงศพไม่เพียงพอ และคนงานเผาศพทำงานไม่ทัน โลงศพถูกวางซ้อนกันสูงถึง 2-3 ชั้น หรือแม้กระทั่งเก็บไว้ในโถงทางเดินเพื่อรอการเผา

จอร์ก ชาลเดช ผู้จัดการฌาปนสถาน ในเมืองไมเซิน รัฐซัคเซิน ของเยอรมนี เผยว่า เริ่มรับศึกหนักตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ภายหลังจาก ยอดผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 เริ่มเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่คาดคิด ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ผิดปกติอย่างมาก

"ผู้ที่เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนานั้น เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพิ่มขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเมื่อก่อน" ชาลเดช กล่าว

นอกจากนี้ ผู้จัดการฌาปนสถาน ยังเผยว่า มีคนงานหลายสิบคน โดยปกติแล้วจะทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ในระบบสองกะ แต่ตอนนี้คนงานทุกคนต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมด ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพราะวิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะสามารถเร่งจัดการผู้เสียชีวิต และเผาศพพวกเขาโดยเร็วที่สุด

"ทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเยี่ยมคนที่รักที่โรงพยาบาล และแม้พวกเขาจะต้องจบชีวิตลง คุณก็ไม่สามารถจับมืออำลาพวกเขาได้อีกต่อไป สิ่งเดียวที่คุณจะได้รับคือ โทรศัพท์แจ้งว่าพวกเขาเสียชีวิต" ชาลดัคกล่าว

โดยรายงานของยูเอสนิวส์ เผยว่า ผู้เสียชีวิตจากโควิด 19 ในเยอรมนีเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม และเมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา มียอดผู้เสียชีวิตรายวัน สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1,244 ราย โดยล่าสุด วันนี้ (17 มกราคม 2564) ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ เยอรมนี มีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 46,464 ราย และติดเชื้ออีกไม่ต่ำกว่า 2 ล้านราย

ที่มา ยูเอสนิวส์