สรรพากรเช็กบิลลุงพล คนจ้างผิดหวัง

สรรพากรเช็กบิลลุงพล คนจ้างผิดหวัง

เมื่อวันที่ 15 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ตรวจสอบไปที่ช่องยูทูบบัญชีหนึ่ง ซึ่งจะโพสต์คลิปเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของลุงพลที่บ้านกกกอก ขณะนี้มีผู้ติดตาม 127,000 และจำนวนคลิป 1,564 คลิป โดยรูปภาพหน้าปกมีการถ่ายรูปคู่กับนักข่าวของอัมรินทร์ ทีวี อย่างไรก็ตามฝ่ายข่าวแจ้งว่า นักข่าวอมรินทร์ ทีวี ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ใช้บัญชียูทูบชื่อดังกล่าว และเป็นการละเมิดนำรูปไปหารายได้

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

อย่างไรก็ตาม เมื่อทีมข่าวตรวจเช็กดู พบว่ายอดคลิปที่มีผู้เข้าชมสูงสุด 343,948 ครั้ง ส่วนยอดวิวต่ำสุด 53,109 ครั้ง และยอดวิวรวมทั้งสิ้น 39,684,388 ครั้ง นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ และประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ข้อมูลการเสียภาษี การเป็นยูทูเบอร์ ถ้ามีเงินได้ คนไทยทุกคนมีหน้าที่เสียภาษี จะเสียมากน้อย หรือไม่เสียเลย อยู่ที่ว่ามีเงินได้เท่าไร ตลอดทั้งปี 63 มีเงินรายได้เข้าจากยูทูบเกินกว่า 300,000 บาท จะต้องเสียภาษี และถ้าหากปีก่อน ๆ เคยมีรายได้มากกว่าที่สรรพากรเรียกเก็บ ก็จะโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

อย่างเช่นมีรายได้ต่อเดือน เดือนละ 60,000 บาท จำนวน 12 เดือน เท่ากับ 720,000 บาท เกินกว่าฐานภาษีขั้นต่ำ ต้องเสียภาษี หากไม่เสียโดนฟ้องร้องได้ ถ้าเรามีรายได้ หลีกเลี่ยงภาษี ไม่เสียภาษี มีโทษปรับเป็นเบี้ยปรับเงินเพิ่ม และมีโทษจำคุกตามกฎหมายที่กำหนดอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวสรุปรายได้ของนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ลุงเขยของน้องชมพู่ หลังมีชื่อเสียงโด่งดัง โดยวันที่ 1 ก.ย.63 ขึ้นเวทีกับจินตหรา ที่ต.เต่างอย จ.สกลนคร และมีงานเฉลี่ยขั้นต่ำสัปดาห์ละ 2-3 งาน แต่ปัจจุบัน 136 วัน ค่าตัวตั้งแต่ 10,000-7 หลัก (ต่อรองได้)

คุณปิ๋ม ซีโฟร์หรือ ชาลิภา รินรดามณีหนึ่งในเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชา มาดี้พีชเจ้าตัวยอมรับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ลุงพลผิดสัญญาจริง นับตั้งแต่วันแรกที่ได้มีการพูดคุยผ่านคนกลางว่าจะจ้าง ลุงพลเป็นพรีเซ็นเตอร์ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชามาดี้ก็ได้มีตกลงเรื่องสัญญากันชัดเจน ส่งกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ เนื่องจากทาง ลุงพล เรียกค่าตัวมาถึง 7 หลัก แต่ตนว่าสินค้ายังเป็นน้องใหม่ จึงขอต่อรองให้อยู่ที่ 3 แสนบาท พร้อมกับระบุวันจ่ายเงินในแต่ละก้อนชัดเจน ซึ่งตอนนั้น ลุงพลและคนกลางก็รับรู้ก่อนจะเซ็นสัญญาฉบับนี้แล้วด้วย

โดยแบ่งการจ่ายเงิน 3 แสนบาทออกเป็น 3 งวด

-วันเซ็นสัญญา จ่าย 1.5 แสนบาท

-วันถ่ายแบบ จ่าย 5 หมื่นบาท

-วันรำบวงสรวงพญาเต่างอย จ่าย 1 แสนบาท

และจุดที่ ลุงพล ผิดสัญญาชัดเจน เนื่องจากตามสัญญาได้ระบุไว้ชัดเจนในข้อที่ 4 ว่า ตลอดเป็นระยะเวลา 6 เดือน ผู้รับจ้าง หรือจะไม่รับทำงานให้กับบุคคลอื่น และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เป็นประเภทเดียวกันคือ ผลิตภัณฑ์ครื่อดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก ดูแลลำไส้ ดูแลผิวพรรณ และผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดไขมันในเลือด โรคหัวไจ โรคมะเร็ง ความดันโตหิต โรคความจำเสื่อม แต่ไม่นาน ลุงพล กลับไปรับเงินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีมูลค่าหลักล้าน จากผลิตภัณฑ์กาแฟ ซึ่งมีสรรพคุณบางประการใกล้เคียง พร้อมกับการทำหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ ซึ่งในกรณีนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดสัญญาชัดเจน

นอกจากนี้ ลุงพล ไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่พูดคุยกันไว้ เช่น วันถ่ายแบบคู่กับผลิตภัณฑ์ ทีมงานดิลคิว “ลุงพล ไว้ 1 คิวหรือจนกว่างานจะเสร็จ โดยซัพพอร์ตทั้งที่พัก อาหารการกินทุกอย่าง และมีการส่งสคริปต์ให้ ลุงพล เตรียมตัวก่อนวันถ่ายจริงแล้วด้วย แต่ลุงไม่ทำการบ้าน ทำให้งานในวันนั้นล่าช้าไป ซึ่งทีมงานก็เข้าใจว่าลุงอาจจะยังไม่รู้วิธีการทำงานในวงการบันเทิง จึงพยายามทำให้บรรยากาศในกองถ่ายแฮปปี้ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

และจู่ ๆ ประมาณบ่ายโมง ป้าแต๋น ก็รับโทรศัพท์สายหนึ่งแล้วพูดเสียงดังเพื่อให้ตนได้ยินว่า จะต้องไปอีกงานหนึ่งต่อ หลังจากนั้น ป้าแต๋น ก็เข้ามาถามกับตนว่า จะเสร็จกี่โมง ตนก็ตอบไปว่า ก็จะต้องทำงานให้เสร็จก่อนค่ะ แล้ว ป้าแต๋น ก็ตอบกลับมาว่า จะต้องไปต่อ ด้วยน้ำเสียงแข็ง ๆ ตนก็ยังยืนยันว่าต้องทำงานต่อ หลังจากนั้น ป้าแต๋น ก็กดดันตนว่า รถมารับแล้วค่ะ ด้วยความที่อยู่ในสภาวะกดดัน ทำให้ทีมงานต้องรวบทุกอย่างมาถ่ายให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อให้ ลุงพล ได้ไปทำงานต่อที่ต่างจังหวัด

ซึ่งนั่นหมายความว่าผลงานคลิปโฆษณาของแบรนด์ตนก็ออกมาก็ไม่ดีตามที่ตั้งไว้ เนื่องจากเวลาถ่ายทำไม่เพียงพอ ต่อมาในวันที่มีการรำบวงสรวงที่พญาเต่างอย เป็นวันที่นัดกันจ่ายเงินก้อนสุดท้ายหลังเสร็จงานด้วย ซึ่งวันก่อนหน้านั้นทางแบรนด์ได้มีการพูดคุยกับ ลุงพล แล้วว่าจะขอคิว 1 วันหรือจนกว่างานวันนั้นจะเสร็จ เพราะหลังจากรำเสร็จต้องมีการไลฟ์สดขายสิ้นค้าที่หน้าบ้าน “ลุงพล” ต่อ แต่ปรากฏว่าหน้างาน หลังรำเสร็จทางลุงบอกว่าจะต้องไปเปลี่ยนยางรถต่อ ทางทีมก็อนุญาตให้ไป แต่นัดเวลาว่าต้องกลับมาเจอกันที่บ้านในเวลา 13.30 น. เพื่อไลฟ์สด เนื่องจาก คุณปิ๋ม และทีมงานต้องขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 18.00 น.

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

หลังจากเวลาผ่านไปจนเลยเวลานัด ก็มีการโทรตาม ลุงพล ก็บอกว่ากำลังมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.30 น. ตนก็ไม่รอเพราะต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ อย่างที่บอกไป ก่อนเดินทางออกจากบ้าน คุณปิ๋ม และทีมงานจึงได้มีการถ่ายคลิปเพื่อเป็นการยืนยันว่า ตนได้นำเงินก้อนสุดท้ายมาจ่ายให้กับ ลุงพล แล้วแต่ ลุงพล ไม่อยู่ ส่วนเรื่องของการฟ้องร้อง ลุงพล นั้น ตอนนี้ตนบอกว่าทางทีมงานฝ่ายกฎหมายได้มีการร่างหนังสือยื่นฟ้อง และระบุจำนานเงินที่จะเรียกจาก ลุงพล เรียบร้อยตั้งแต่วันแรกที่บริษัททราบว่า ลุงพล ผิดสัญญาแล้ว สำหรับสัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ ลุงพล จะสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.64 รวมถึงทางทนายก็ได้มีการเตรียมหลักฐานฟ้องชาวเน็ตที่เข้ามาคอมเมนต์หรือโพสต์ให้แบรนด์เสียหายด้วย

นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวถึงกรณีลุงพลประกาศงดให้สัมภาษณ์สื่อหลัก เนื่องจากบางครั้งของการให้สัมภาษณ์ ไม่เป็นไปในทิศทางที่ลุงพลต้องการจะสื่อสาร ลุงพลจึงตัดสินใจที่จะงดให้สัมภาษณ์ เพื่อหยุดความเข้าใจผิดของผู้เสพสื่อที่จะเกิดขึ้น โดยข้อดีของการงดให้สัมภาษณ์สื่อหลัก เมื่อลุงพลไม่ให้สัมภาษณ์ สื่อก็จะไม่มีข่าวไปนำเสนอ ลุงพลก็จะหยุดความคลาดเคลื่อนของสารในข่าวได้ ส่วนข้อเสียในการงดให้สัมภาษณ์ ลุงพลจะเสียโอกาสในการโฆษณาตัวเอง เพราะปกติแล้วค่าโฆษณาของสื่อนั้นแพงมาก การให้สัมภาษณ์คือ การโฆษณาตัวเองโดยไม่ต้องจ่ายเงิน

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทนายรัชพล ยังบอกด้วยว่า หากลุงพลงดให้สัมภาษณ์สื่อหลัก อาจทำให้กระแสลุงพล คือแพะในคดีน้องชมพู่เลือนหายไป อีกทั้งสินค้าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาจจะหมดความเชื่อถือในตัวลุงพล อาทิ ลุงพลไม่ใส่เสื้อที่มียี่ห้อสินค้าขณะให้สัมภาษณ์ การกระทำของลุงพลที่นั่งนิ่ง ไม่ยอมให้สัมภาษณ์สื่อนั้นเป็นภาพที่ไม่ค่อยดีนัก และยูทูบไม่ใช่สื่อหลัก การยินยอมให้เพียงแค่ยูทูเบอร์สัมภาษณ์เท่านั้น แฟนคลับของลุงพลอาจจะลดน้อยลง และเมื่อแฟนคลับน้อยลง ยูทูเบอร์ก็จะขาดรายได้ แต่หากลุงพลอยากจะกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบบ้าน ๆ ก็เป็นสิทธิ์ของลุงพล

อย่างไรก็ตาม หากลุงพลเปลี่ยนใจ อยากให้สัมภาษณ์สื่อหลักอีกครั้ง ตนคิดว่าสื่อหลักก็พร้อมที่จะทำข่าวให้ โดยอาจมีการตกลงกันว่าจะสัมภาษณ์เวลาไหน สัมภาษณ์วันละกี่ครั้ง ตามแต่จะตกลงกัน ถ้าลุงพลกลัวว่าสื่อจะนำเสนอข่าวผิดพลาด ตนขอแนะนำว่าให้ลุงพลพูดสั้น ๆ แต่ได้ใจความ ลุงพลก็จะสามารถกันการสื่อสารที่ผิดพลาดได้

คลิป

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าวอัมรินทร์ทีวี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ