วันที่ 9 ม.ค. ร.ต.อ.พงศกร อ่อนสลวย รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งรถกระบะชนกับจักรยายนต์ บริเวณปากทางเข้า บ้านนกเกรียน ต.เมืองแก อ.สตึก จึงรุดไปตรวจ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนช์ทอง ทะเบียน บว 4543 บุรีรัมย์ จอดอยู่ข้างถนนด้านหน้ารถได้รับความเสียหาย

ใกล้กันพบรถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง ล้มอยุ่กลางถนนสภาพพังยบเยิน และบริเวณข้างถนนยังพบศพนางสาวมาธวี ชินรัมย์ อายุ 18 ปี อยู่เลขที่ 155 บ้านนกเกรียน ต.เมืองแก อ.สตึก สภาพกระดูกหักหลายแห่ง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะถูกรถกระบะชนท้าย

โดยต่อมานายพุฒิพงศ์ ชินรัมย์ อายุ 24 ปี สามีผู้ตาย และนางกมลพัฒน์ ชินรัมย์ อายุ 55 ปี แม่ย่าผู้ตายเดินทางมาถึง ต่างรับกับเหตุการณ์ไม่ได้ นั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตลอดเวลา สอบถามเพื่อนบ้านผู้ตาย ทราบว่า น.ส.มาธวี ขี่รถจักรยายนต์ออกจากบ้าน มากับนางกมลพัฒน์ แม่ย่า 2 คน เพื่อจะไปกดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ร้านค้าห่างจากบ้านประมาณ 5 กม.เพื่อจะรูดซื้อนมให้ลูกวัย 2 ขวบที่รอกินนมอยู่ที่บ้าน เมื่อไปถึงร้านค้า น.ส.นาธวี ลืมบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไว้ที่บ้าน จึงรีบกลับมาเอาบัตร

โดยทิ้งแม่ย่าไว้ที่ร้านค้า แต่มาประสบเหตุก่อน คาดว่าผู้ตายอาจจะรีบเพราะลูกวัย 2 ขวบรอกินนมอยู่ที่บ้าน ขณะที่นายคาวี ใหญ่เลิศ อายุ 29 ปี อยู่เลขที่ 17 หมู่ที่ 18 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ คนขับรถกระบะ เล่าว่า ตนขับรถบนถนนสายสตึก-จอมพระ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถจักรยายนต์คันดังกล่าว ได้ขับพุ่งออกมา จึงเบรกไม่ทัน อย่างไรก็ตามตำรวจ จะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ขอบคุณ มติชนออนไลน์