โวยตร.ยิงถล่มผิดคันทำเมียเจ็บ

โวยตร.ยิงถล่มผิดคันทำเมียเจ็บ

จากกรณีนายเรืองศักดิ์ เรือนแก้ว อายุ 23 ปี ลูกชายของนักการเมืองท้องถิ่นใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ตามง้อภรรยาบ้านพักหลังวัดคลองพน หมู่ 6 บ้านพรุใหญ่ ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมกลับ จึงชักปืนขู่ ทำให้ญาติต้องรีบแจ้งตำรวจ สภ.ทรายขาว มาระงับเหตุ แต่นายเรืองศักดิ์ กลับชักปืนกระหน่ำยิงรถตำรวจ จนมีตำรวจได้รับบาดเจ็บไป 2 ราย และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย จากนั้นก็ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ จ.กระบี่ เข้ามาในพื้นที่ จ.ตรัง ด้วยรถยนต์เก๋ง นิสสัน จู๊ค สีขาว ทะเบียน กฉ 7598 เพชรบุรี พร้อมอาวุธปืนสั้นและปืนยาวมาในรถ ต่อมาทางชุดสืบสวน สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังรับการประสานมาจาก สภ.ทรายขาว จ.กระบี่ จึงได้ตั้งจุดสกัดบริเวณสี่แยกอันดามัน ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังตั้งจุดตรวจสกัดอยู่นั้น ได้พบรถเก๋งนิสสัน อัลเมร่า สีขาว ทะเบียน กธ 7693 กระบี่ ขับมาขี่โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า น่าจะเป็นรถต้องสงสัยคันเดียวกับที่ก่อเหตุ จึงได้ใช้อาวุธปืนทั้งปืนสั้นยาว กระหน่ำยิงใส่ และเข้าตรวจสอบรถอย่างทันที โดยรถมีร่องรอยคมกระสุนเจาะเข้าจำนวนหลายจุดทั้งคัน ยางล้อหลังทั้ง 2 เส้นแตก

จากการตรวจสอบภายใน 3 ราย โดยมีนายสุทธิราช หมาดแดหว่า อายุ 38 ปี อาชีพขับรถส่งของ เป็นคนขับรถ น.ส.หนึ่งฤทัย วงศ์ประเสริฐ อายุ 29 ปี อาชีพเสมียนแพปลาแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ เป็นภรรยา นั่งข้าง ได้รับบาดเจ็บถูกเจ้าหน้าที่ยิงทะลุประตูกระสุนเจาะเข้าต้นขาซ้าย และ น.ส.สุดารัตน์ หมาดแดหว่า อายุ 24 ปี น้องสาวของนายสุทธิราช นั่งเบาะหลัง เจ้าหน้าที่จึงนำ น.ส.หนึ่งฤทัย ส่ง รพ.ห้วยยอด พร้อมควบคุมตัว นายสุทธิราช กับ น.ส.สุดารัตน์ ไว้ ก่อนจะประสานไปยัง พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.ห้วยยอด พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง เข้าตรวจสอ

จากการตรวจสอบภายในรถไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนนายสุทธิราช และ น.ส.สุดารัตน์ ที่ได้ถูกควบคุมตัวไว้นั้น อยู่ในอาการตื่นตกใจและขวัญผวาเป็นอย่างมาก พร้อมยืนยันตลอดเวลาว่า ไม่ได้ก่อเหตุหรือทำผิดกฎหมายมาแต่อย่างใด จึงได้นำตังทั้งคู่มาทำการสอบสวน ที่ สภ.ห้วยยอด โดยทำการแยกกันสอบ โดยมีบรรดาญาติพี่น้องของผู้เสียหายต่างรีบเดินทางมาที่สถานีตำรวจ โดยในเบื้องต้นมีการยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงผิดตัว โดยในขณะนี้ยังคงไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุที่แท้จริงว่าหลบหนีไปในเส้นทางใด

จากการสอบปากคำ นายสุทธิราช ให้การว่า ตนเองขับรถออกจากบ้านในพื้นที่ ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เพื่อเดินทางมายัง สถานีรถไฟตรัง เพื่อที่จะเดินทางไปอบรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในวันพรุ่งนี้ โดยนำภรรยา มาพร้อมกับน้องสาวตนเอง เพื่อจะได้ขับรถกลับ แต่ตอนเกิดเหตุตนเองเห็นตำรวจยืนอยู่บริเวณสี่แยก ในใจคิดว่าน่าจะเกิดอุบัติเหตุ จึงได้ทำการเปลี่ยนเลน และชะลอรถ แต่ทันใดนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระหน่ำยิงเข้าอย่างจัง จนตนเองต้องหยุดรถ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้ามาควบคุมตัวอย่างทันที โดยที่ตนเองไม่ได้พูดอะไรแม้แต่น้อย และยืนยันว่าไม่ใช่คนร้าย

ด้านนายห้าสัน หมาดแดหว่า อายุ 58 ปี พ่อของนายสุทธิราช กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนไม่ได้รู้รายละเอียดมากนัก เพราะอยู่ที่บ้านแต่ลูกชายอยู่บนถนน เท่าที่ฟังทราบว่าลูกชายกำลังเดินทางไปที่สถานีรถไฟตรังเพื่อที่จะไป จ.สุราษฎร์ธานี ไปกัน 3 คน มีลูกสะใภ้ ลูกชายและน้องสาวอีกคน เพื่อนั่งเป็นเพื่อนกันขากลับ โดยเริ่มเดินทางตั้งแต่วันนี้ เพราะพรุ่งนี้มีประชุม แต่ระหว่างทางตำรวจเกิดเข้าใจผิด คิดว่าลูกชายเป็นคนร้าย ได้ใช้อาวุธปืนยิงล้อรถทั้งสองข้าง ถูกลูกสะใภ้อีก

นายห้าสัน กล่าวอีกว่า ลูกชายเป็นคนที่ไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ของมึนเมา แม้กระทั่งบุหรี่ก็ยังไม่สูบ จนรู้สึกเสียใจ น้อยใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำไมก่อนที่ตำรวจจะทำงานไม่ตรวจดูให้ดีก่อน เพราะทะเบียนรถก็ไม่เหมือนกัน รถของลูกชายเป็นป้ายจังหวัดกระบี่ แต่ของคนร้ายเป็นป้ายทะเบียน จ.เพชรบุรี แต่บังเอิญว่ารถสีและยี่ห้อ เหมือนกัน หลังจากนี้ก็จะขอคุยกับญาติก่อน แต่ยืนยันว่าจะมีการดำเนินคดี ไม่ให้เรื่องเงียบ เพราะตำรวจทำเกินกว่าเหตุ อีกทั้งลูกสะใภ้ต้องมาบาดเจ็บและหยุดทำงาน อีกทั้งทรัพย์สินเสียหาย

และรู้สึกจิตตกกันทั้งนั้น โดยที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น และหวั่นว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้น ตำรวจไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ให้กับผู้สื่อข่าว และอยู่ในระหว่างการสอบสวนผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ น.ส.หนึ่งฤทัย ภรรยา นายสุทธิราช อยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว และอยู่ในระหว่างการไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุที่แท้จริง ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

ขอบคุณ เดลินิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ