กทม.สั่งปิดโรงเรียนในสังกัด 437 แห่ง
เมื่อเวลา 16.25 น. ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง แถลงข่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่กระจาย CV 2019 กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) ถึงมาตรการป้องกันการแพร่กระจาย CV 2019 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สำหรับมาตรการควบคุมนั้น
จากปัญหาที่ว่าจะควบคุมได้หรือไม่ แต่คณะกรรมการยังเชื่อว่ายังควบคุมจำนวนได้ แต่จะมีในกลุ่มสถานบริการ ตลาด สนามมวยซึ่งเป็นจุดที่จะแพร่กระจายได้ จากที่เคยมีการกระจายที่สนามมวยเมื่อช่วงต้นปี 2563 การแพร่กระจายที่ตลาด จ.สมุทรสาคร ได้มีมาตรการออกมาแล้วเช่นเดียวกับสนามมวย ซึ่งได้มีการประกาศออกมาว่าจะไม่มีการจัดชกจนว่าจะสถานการณ์จะดีขึ้น ขณะที่สวนสาธาณนะ ตลาด และศาสนสถาน จะไม่ให้รวมตัวของผู้คนและแรงงานต่างชาติ
ขณะนี้พบผู้ติด CV 2019 ที่ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับ สถานการณ์ในต่างจังหวัดเพิ่มเป็น 20 ราย โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ติดรายใหม่ 11 รายที่ยังอยู่ระหว่างการแจ้งโร ค โฆษก กทม.กล่าว
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กทม.ได้ทำงานเพื่อค้นหาตรวจในตลาด 478 แห่ง ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้วร้อยกว่าแห่ง ส่วนการตรวจไซต์ก่อสร้าง ก่อนหน้านี้ กทม.เคยตรวจไปแล้ว 17,000 ตัวอย่างโดยไม่พบ แต่จะกลับมาตรวจอีกครั้ง รวมถึงจะไปตรวจโรงงานในพื้นที่เขตที่ติดกับ จ.สมุทรสาครด้วย นอกจากนี้จะขอความร่วมมือหน่วยงานภารรัฐไม่จัดกิจกรรมปีใหม่ หรือกิจกรรมรวมตัวในช่วงนี้ แต่หากจะจัดแล้วมีคนมาร่วมมากกว่า 300 คนต้องขออนุญาตมาที่สำนักอนามัย กทม.เพื่อพิจารณาจะจัดได้หรือไม่ หรือหากมีการจัดในครอบครัวก็ต้องดำเนินกรตามมาตรการควบคุมอย่างเคร่งครัดด้วย
การกระจายรอบนี้เรามีเวลา 4 สัปดาห์จะควบคุมได้หรือไม่ เพราะจากประเทศต่างๆ ทั้งโลกพบว่ามี 88 % มีกระจายซ้ำ และแรงกว่าเดิม แต่ถ้าใน 4 สัปดาห์นี้เราสามารถควบคุมได้ ประเทศไทยอาจเป็นกลุ่ม 12 % ที่ควบคุมได้ ที่ประชุมจึงมีมติว่าจะปิดโรงเรียน กทม. 437 แห่งและศูนย์เด็ กเล็ก 292 แห่ง เพื่อให้ลดกิจกรรมที่คนใกล้ชิดกัน โดยจะหยุดทั้งหมด 12 วันตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.ร.ต.อ.พงศกร กล่าว
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวด้วยว่า เราพย ายามควบคุมให้จำกัดวงให้ได้ ตราบใดที่ทุกเคสยังเชื่อมโยงกับ จ.สมุทรสาคร จะยังง่ายต่อการควบคุม แต่หากมีกิจกรรมที่ยังใกล้ชิดมากขึ้นเช่นการไปสถานบริการที่แออัด จะทำให้กระจายในกรุงเทพฯ เกิดขึ้นได้ สำหรับหน่วยงาน กทม.ที่ไม่ใช่หน่วยงานบริการ
ได้ให้หน่วยงานเหล่านี้สามารถทำงานที่บ้าน และขอเชิญชวนให้หน่วยงานภาครัฐอื่นและเอกชนให้สามารถทำงานที่บ้านได้ในช่วง 12 วันนี้ เพื่อเปลี่ยนทิศทางการกระจายในกรุงเทพฯให้ได้ สำหรับมาตรการการล็อคดาวน์ กทม.เป็นทางเลือกสุดท้ายแต่ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจจะล็อคดาวน์หรือไม่ เพราะยังอยู่ในช่วงประเมินสถานการณ์ในแต่ละวัน ร.ต.อ.พงศกร ระบุ
ขอบคุณ angkokbiznews