พัทยาลุ้นหนัก เจอ 2 ราย
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 23 ธ.ค.นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา เรียกประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการคว บคุมเมืองพัทยา (ศปก.เมืองพัทยา) เพื่อร่วมหารือในการติดตามสถานการณ์ ความคืบหน้าในการติดตาม เฝ้าระวัง และแนวทางการป้องกันการแพร่กระจาย CV-19 หลังเกิดสถานการณ์การติดในพื้นที่ตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร จนมีผู้ติดซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าจำนวนมาก และมีการขยายวงกว้างไปยังกลุ่มผู้ซื้อ ที่เดินทางไปจับจ่าย จนลามไปยังพื้นที่อื่นๆ อีก 20 กว่าจังหวัด
นายมาโนช กล่าวว่า หลังจากที่พื้นที่จังหวัดชลบุรีปลอดผู้ติดมานานกว่า 5 เดือน แต่หลังเกิดสถานการณ์การที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งนับว่ามีการแพร่กระจายรุ นแรงก็พบว่ามีการขยายวงของผู้ที่เดินทางไปและกลับ ทั้งในส่วนของแรงงาน ผู้ซื้อ ผู้ขายสินค้าในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มขึ้น
ล่าสุดจากการแถลงของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ระบุว่าในพื้นที่ พบมีผู้ติดเป็นหญิงอายุ 19 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมาจาก จ.สมุทรสาคร ติดแล้ว 1 ราย และจากการลงพื้นที่ของเมืองพัทยา ร่วมกับอำเภอบางละมุง พบลูกจ้างร้านอาหารทะเลในตลาดสดลานโพธิ์ 2 ราย และผู้ใกล้ชิดอีก 2 ราย เดินทางไปในพื้นที่ จึงส่งตัวไปตรวจและสืบสวนแล้ว
นอกจากนี้ ยังพบมีผู้ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังอีก 2 ราย เป็นลูกจ้างชาวไทยที่มีอาชีพรับส่งอาหารทะเลในพื้นที่ตำบลอ่างศิลา และเขตจอมเทียน เมืองพัทยา ที่เดินทางไปในพื้นที่แพร่กระจาย ซึ่งผลจากการตรวจรอบแรกจากแล็บ พบมีผลการตรวจเป็นบวก ขณะนี้กำลังส่งไปตรวจหารอบที่ 2 ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบว่ามีผลเป็นบวกและมีการยืนยันการติดแน่นอน เมืองพัทยาคงต้องร่วมกับสาธารณสุขในการสืบสวน และดูไทม์ไลน์ในช่วงเวลาต่างๆ เพื่อสืบหาผู้ใกล้ชิด และผู้ที่เฝ้าระวังมาดำเนินการตามขั้นตอนอย่างรวดเร็ว รัดกุม ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องมีมาตรการอย่างเข้มข้น
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เมืองพัทยา ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯ และเตรียมความพร้อมในการรับมืออย่างเต็มที่ อาทิ การสั่งระงับการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนทั้งหมด ขณะที่กิจกรรมภายในก็ต้องมีการประสานหรือแจ้งรายละเอียดของการจัดงานและมาตรการป้องกันมายังเมืองพัทยาเพื่อพิจารณาด้วย เพราะหากไปดำเนินการเองและเกิดปัญหาขึ้นก็จะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คว บคุม ซึ่งมีทั้งโท ษจำและปรับ
พร้อมกันนี้ มีการจัดชุดคว บคุมลงพื้นที่เพื่อตรวจหา สืบสวน เฝ้าระวัง และป้องกันอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่กลุ่มแรงงานต่างด้าว ซึ่งตั้งเป้าหมายหลักไว้ในพื้นที่จำนวน 15 แห่ง รวมทั้งมีการจัดเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องของสถานที่ตรวจรักษา สถานที่กักตัว และบุคลากรทางการแพทย์ไว้อย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ครั้งนี้ ดูแล้วน่าจะรุน แรงกว่าที่เกิดขึ้นในช่วงแรก จึงต้องมีการติดตามและป้องกัน รวมทั้งการประชาสัมพันธ์กับประชาชนและสถานประกอบการอย่างเข้มข้นนับจากนี้
เรียบเรียง mumkhao