ลุงจรูญ ควงทนายตั้ม ตั้งโต๊ะแถลงขอโทษ ครูปรีชา

ลุงจรูญ ควงทนายตั้ม ตั้งโต๊ะแถลงขอโทษ ครูปรีชา

วานนี้ (17/12/2563) ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความส่วนตัว ได้ตั้งโต๊ะขออภัยนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ผ่านสื่อมวลชนที่บ้านพักส่วนตัว เลขที่ 299/110 หมู่บ้านศิริชัยวังสารภี ซ.5 หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ทั้งนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปี 2562 ก่อนที่จะมีคำตัดสินคดีหวย 30 ล้าน ตอนนั้นคุณลุงได้ทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่บ้านพัก และได้มีการพูดให้สัมภาษณ์ว่า คนที่เลวโดยสันดารการศึกษาก็ไม่ช่วยอะไร แต่ปรากฏว่าทางครูปรีชา ไปฟ้องต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีว่า คุณลุงได้มีการกล่าวถึงครูปรีชาหรือเปล่า ซึ่งคดีก็สู้กันมา ซึ่งศาลชั้นต้นท่านบอกว่าครูปรีชาไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะคุณลุงจรูญ ไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นครูปรีชา

แต่เมื่อถึงชั้นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ก็บอกว่า เรื่องนี้อาจจะทำให้ครูปรีชาเสียหาย เพราะว่าในการให้สัมภาษณ์มีการพูดถึงเรื่องหวย 30 ล้านบาท และมีการพูดถึงครูปรีชาด้วย ซึ่งคำพูดนั้นอาจจะหมายถึงครูปรีชาก็ได้ จึงให้ย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นได้พิจารณา แต่ระหว่างที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการพิจารณาท่านก็ได้มีการไกล่เกลี่ย เพราะว่าท่านคงจะมองเห็นว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย

ดังนั้นท่านจึงได้ไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายว่าอยากให้เรื่องนี้มันจบไป แต่ทางคุณลุงก็บอกว่าไม่ได้หมายถึงครูปรีชา แต่ศาลท่านก็บอกว่าอะไรที่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆถ้าผ่านไปได้ก็ขอให้ผ่านไป ให้เราไปมุ่งเน้นคดีหลักกันจะดีกว่า เช่นคดีที่มีการดำเนินคดีกันคือคดีหลักเรื่องหวย 30 ล้าน หรือเรื่องคดีที่จะไต่สวนในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.)คือเรื่องของการฟ้องเท็จ ซึ่งตัวคุณลุงก็คิดว่าก็ดีเหมือนกัน เพราะเราจะได้ไม่ทำให้เสียเวลาของศาล และประหยัดเวลาของคุณลุงในการที่จะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว จึงได้รับปากว่าจะจัดแถลงข่าวเพื่อขออภัยครูปรีชา จึงเป็นที่มาของการแถลงข่าวในวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาหมวดจรูญ ได้พูดขออภัยนายปรีชา ใคร่ครวญ โดยใช้ถ้อยคำตามที่ตกลงกันไว้ว่า ตามที่ข้าพเจ้าเคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2562 ว่า คนที่เลวโดยสันดานเนี๊ยะ มัน การศึกษามันช่วยไม่ได้หรอกนะ การศึกษาก็ช่วยไม่ได้ หากข้อความที่ให้สัมภาษณ์ดังกล่าวทำให้นายปรีชา ใคร่ครวญ ได้รับความเสียหาย ข้าพเจ้าขออภัย ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.)จะมีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ทนายตั้ม ตอบว่า คดีนี้ตามรายงานพรุ่งนี้ครูปรีชาก็คงจะต้องไปถอนฟ้องตามที่ได้กำหนดกันเอาไว้คือเรื่องนี้ไม่มีใครถูกและไม่มีใครผิด ซึ่งคุณลุงจรูญก็ได้กล่าวขออภัย ส่วนครูปรีชาก็ไปถอนเรื่องออก ซึ่งก็จบไปแล้วอีกเรื่องหนึ่ง

ส่วนในวันนพรุ่งนี้ก็จะมีการไต่สวนกันต่อเกี่ยวกับการที่ลุงจรูญ ฟ้องครูปรีชาและทนายความส่วนตัว ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ ซึ่งฝ่ายครูปรีชาได้ขอเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งพรุ่งนี้ก็คิดว่าคงจะไม่ได้เลื่อนอีกแล้ว หลังจากพรุ่งนี้ไต่สวนแล้วเสร็จ ศาลก็คงจะมีคำสั่งว่าคดีจะมีมูลหรือไม่ ถ้าหากมีมูลก็จะเข้าสู่ชั้นพิจารณา เอาหลักฐานของทั้งสองฝ่ายมานำเสนอต่อศาล หากศาลมีคำพิพากษาว่ามีความผิด ครูปรีชาและทนายความก็จะได้รับโทษ แต่หากศาลพิพากษาว่าไม่ผิด ก็ยกฟ้องไป ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานและหลักฐานต่างๆ

และสิ่งที่เรามองว่าการที่ครูปรีชามาฟ้องลุงจรูญว่ายักยอกทรัพย์ รับของโจร เรามองว่ามันเป็นเท็จ และการที่เราฟ้องไปเพราะเรารู้ว่าทางทนายความและครูปรีชาทราบดีอยู่แล้วว่ามันเป็นเท็จเราถึงฟ้อง ซึ่งเรามีความเชื่อเช่นนี้เราถึงต้องใช้สิทธิ์ทางศาล แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องรอให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน

ส่วนเรื่องของคดีหลัก ทราบว่าทางฝ่ายของครูปรีชา ได้มีการขอขยายฎีกาอยู่ ส่วนศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์จะรับคำร้องอนุญาตให้ฎีกาหรือไม่ จะต้องรอให้ส่งฎีกาไปก่อนเราจึงจะรู้ว่าท่านจะอนุญาตหรือรับรองหรือไม่ หากไม่รับรองคดีหลักก็จบลงที่ศาลอุทธรณ์ แต่ถ้าหากรับรองคดีก็ขึ้นสู่ศาลฎีกา ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร

ขอบคุณภาพจาก ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ