บิณฑ์ ยอดพูดแล้วเงิน 2 ล้านทำเสื้อชมพู เสี่ยโป้ อ้ำอึ้ง
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.63 เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ตรวจสอบพฤติกรรมเรียกรับเงินบริจาคของ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ที่อ้างโครงการจัดทำเสื้อสีชมพูของ รพ.ศิริราช เรียกรับเงินบริจาคจาก "เสี่ยโป้" จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวโดยมิชอบ
จากนั้นทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพบ บิณฑ์ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าตัวก็ถึงกับพูดตัดพ้อกับทีมข่าวว่า เรื่องไม่เป็นเรื่องเลยแท้ ๆ เพราะตนกับนายสันธนะ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ตนก็ยังงงว่าทำไมถึงทำแบบนี้
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
บิณฑ์ เล่าให้ฟังตั้งแต่แรกว่า เสี่ยโป้โทรมาหาตนตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.63 เขาบอกว่า อยากให้เงินตน 20 ล้านบาท เพื่อไว้ช่วยเหลือคนอื่น ตนก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยโอนเงินช่วยน้ำท่วม 1 ล้านบาท หลังจากนั้นก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องเงิน 20 ล้านบาทกันอีกเลย กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ผลิตเสื้อสีชมพู มาติดต่อตนว่าอยากบริจาคเสื้อสีชมพูให้ตน 1 หมื่นตัว แล้วเขาก็ถามตนว่ามีใครพอจะช่วยทำบุญบ้างหรือไม่ เสื้อตัวละ 100 บาท มีอยู่ 300,000 ตัว รายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับทาง รพ.ศิริราช ตนก็นั่งจำได้ว่า เสี่ยโป้ เคยสัญญาจะให้เงินตน 20 ล้านบาท ก็เลยโทรหาเขา เขาตอบกลับทันทีว่า ยินดี ไม่มีปัญหา
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
จากนั้นตนก็เลยนัดทุกคนมาคุยกัน โดยมีตนเป็นคนกลาง วันนั้นนำใบเอกสารยืนยัน ซึ่งก็มีการตกลงกันอย่างดีว่า เสี่ยโป้ จะเอาเสื้อแค่ 1 แสนตัว เป็นเงิน 10 ล้านบาท โดยจะโอนครั้งละ 2 ล้านบาท ซึ่งจะโอนให้โดยตรงผ่านบัญชีของทาง รพ.ศิริราช ไม่ผ่านทั้งตนและบริษัทที่ผลิตเสื้อสีชมพู แต่เมื่อถึงวันที่ต้องโอนเงินก้อนแรก เพื่อเอาเสื้อออกมาก่อน 2 หมื่นตัว ตนก็ถามไปยังบริษัทที่ผลิตเสื้อสีชมพู เขาบอกยังไม่มีการโอนเงิน ตนเลยถามทางเสี่ยโป้ เขาก็บอกว่ายังไม่สะดวก เพราะติดเรื่องคดีที่ยิงกันในสปา เดี๋ยวจะรีบโอนให้ แต่สุดท้ายก็หายเงียบ พอตนติดต่อกลับไปเขาก็ไม่รับสาย จนมีลูกน้องมารับสาย แล้วบอกว่าเสี่ยโป้ ไม่สะดวกคุย ตนก็เลยตอบกลับไปว่า ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นอะไร ลูกน้องเสี่ยโป้คงตีความว่าตนโกรธ
จากนั้นประมาณ 5 วัน นายสันธนะ ก็โทรมาหาตน แล้วบอกว่า เสี่ยโป้ มาฟ้องว่าตนบังคับให้เสี่ยโป้ ซื้อเสื้อสีชมพู ตนก็อธิบายให้เขาฟังว่า เรื่องจริงคืออะไร เขาก็บอกโอเค ซึ่งก็จบกันไป ไม่มีการติดต่อกันอีก แต่วันนี้นายสันธนะ กลับโผล่มาร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบตน ก็รู้สึกว่าการที่เขาทำแบบนี้ไม่ใช่ผู้ใหญ่แล้ว ตนยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยรับเงินจากเสี่ยโป้แม้แต่บาทเดียว นายสันธนะ ทำแบบนี้เพื่ออะไร ตนไม่เข้าใจจริง ๆ บิณฑ์ เผยอีกว่า ตนยินดีให้ตรวจสอบ ตนบริสุทธิ์ใจมาก แล้วโปรเจกต์ทำเสื้อเพื่อมอบเงินให้กับ รพ.ศิริราช ก็มีอยู่จริง ตนเห็นเอกสารด้วยตาตัวเองแล้ว ตนไม่ได้มีการแอบอ้างอะไรทั้งสิ้น
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ฉะนั้นนายสันธนะ ควรไปเช็กข้อมูลให้ดีก่อน แล้วค่อยมาพูด เอาจริง ๆ ตนสามารถฟ้องกลับได้เลย เพราะเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ การมาพูดมั่ว ๆ แบบนี้ทำให้ตนเสียหาย แต่ตนไม่อยากเป็นคู่เวรคู่กรรม หรือเกาะกระแสดัง เมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้แล้ว ตนมองเสี่ยโป้เปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยชื่นชม ตอนนี้เขากลับทำตัวไม่ใช่ลูกผู้ชาย เขาควรออกมาพูดความจริง ถ้าไม่อยากซื้อเสื้อก็บอก ไม่ต้องมาเกรงใจ เสี่ยโป้โตขนาดนี้แล้ว บอกกันตรง ๆ ก็ได้ ไม่ใช่ไปฟ้องผู้ใหญ่แบบนี้
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ทีมข่าวพูดคุยกับ เสี่ยโป้ อานนท์ เปิดเผยว่า บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ มาขอให้ตนช่วยซื้อเสื้อในโครงการจัดทำเสื้อสีชมพู รพ.ศิริราช จำนวน 2 ล้านบาท จากนั้นตนได้รับปากไปว่าจะช่วยจำนวน 10 ล้านบาท แต่ขณะนั้นตนยังไม่มีเงินสดในประเทศไทย จึงตัดสินไปยืมท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายสันธนะ ให้ยืมเพียง 2 ล้านบาท ตนจึงบอกกับ บิณฑ์ ว่าจะช่วยซื้อเสื้อสีชมพู จำนวน 2 ล้านบาท จากนั้นก่อนถึงกำหนดวันโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของบิณฑ์ คนที่ตนไปยืมเงินโทรศัพท์มาบอกว่า ให้ตนโทรศัพท์ไปหานายสันธนะ
เนื่องจากมีเรื่องจะพูดคุยด้วย เมื่อตนโทรศัพท์ไปหา พร้อมถามว่ามีอะไร นายสันธนะ จึงถามตนว่า "จะนำเงินไปทำอะไร" ตนจึงตอบกลับไปว่า "จะนำเงินไปบริจาคช่วยบิณฑ์ นายสันธนะ จึงถามต่อว่า โปร่งใสหรือไม่ ทำไมไม่โอนเงินเข้าบัญชีโครงการ ทำไมถึงโอนเข้าบัญชีส่วนตัว" ตนจึงบอกเพียงว่า "พวกเดียวกัน แนวความคิดเดียวกัน และเคยบริจาคเงินกับบิณฑ์มาก่อน จึงไว้ใจ และไม่คิดอะไร แต่สุดท้ายเจ้าของเงินก็ปฏิเสธไม่ให้ตนยืมเงินเพื่อนำมาบริจาคช่วยบิณฑ์ เนื่องจากนายสันธนะ มองว่าอาจจะไม่โปร่งใส
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ส่วนกรณีที่ บิณฑ์ มองตนเปลี่ยนไปจากที่เคยชื่นชม แต่ตอนนี้บอกว่าตนทำตัวไม่ใช่ลูกผู้ชาย ก็เป็นมุมมองของแต่ละคน ตนยืนยันข้อเท็จจริง พร้อมฝากบอกไปถึงบิณฑ์ว่าตนไม่เคยหวังไม่ดี และถ้าอยากทราบรายละเอียด ก็ให้บิณฑ์ โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนได้ แต่ถ้าจะให้ตนโทรศัพท์ไปหาก่อน คงไม่ทำ เพราะเดี๋ยวหาว่าตนร้อนตัว นอกจากนี้ เสี่ยโป้ยัง บอกอีกว่า ตนต้องการที่จะช่วยบริจาคเงินซื้อเสื้อสีชมพู จำนวน 2 ล้านบาทจริง ๆ เป็นความตั้งใจที่อยากจะบริจาคช่วย อีกทั้งบิณฑ์ เคยพูดบอกตนว่า นัดไว้ อย่าเสียคำพูด จะเสียคน
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้รู้สึกสงสัยอะไรในตัวบิณฑ์ เพราะตนตั้งใจช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ ส่วนเรื่องที่เงินบริจาคจะกลายเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของใคร หรือใครจะเอาไปทำอะไรนั้น ก็แล้วแต่ ให้เป็นเรื่องของบาปกรรมที่จะต้องได้รับเอง เพราะตนตั้งใจทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ หลังจากนี้ ตนก็จะทำบุญเอง โดยไม่ได้ทำบุญผ่านคนกลางคนไหน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำเดิม
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34