พ่อเมืองอุดรสั่งด่วน เยียวยาเหยื่อ ไอ้คลั่ง
ผู้ว่าฯ เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาเหยื่อไอ้ขี้ยาคลั่งไล่แทงผู้คนบนท้องถนนเสียชีวิต 2 บาดเจ็บ 6 ราย พร้อมสั่งการด่วนไปยังทุกอำเภอให้เฝ้าระวังหวั่นเกิดเหตุซ้ำ ด้านจิตแพทย์เผยผู้ต้องหาไม่มีประวัติบำบัดทางจิต ขณะที่ลุงไอ้คลั่งโหดยันหลานชายจิตปกติดีทุกอย่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (6 ธ.ค.) นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานประชุมส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาและเยียวยาฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีถูก นายอิธิพล อึ่มผึง อายุ 31 ปี ชาว อ.หนองวัวซอ เกิดอาการสติแตกคลุ้มคลั่งเพราะเสพยาบ้าใช้มีดแทง ทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 6 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อบ่ายวานนี้ เบื้องต้นยุติธรรมจังหวัดอุดรธานีจะนำเงินเยียวยาไปมอบแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 110,000 บาท
หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานีได้ลงไปเยียวยาฟื้นฟูจิตใจและนำเงินไปมอบแก่ผู้บาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ จังหวัดอุดรธานีได้มีหนังสือสั่งการด่วนไปยังทุกอำเภอในจังหวัดอุดรธานีให้มีการเฝ้าระวัง เหตุการณ์อาจจะเกิดซ้ำซ้อนและให้มีการเยียวยาจิตใจของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีโดยเร่งด่วน พร้อมทั้งตั้งหน่วยเฉพาะกิจออกตรวจสอบ และตระเวนตามจุดสำคัญตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านจิตแพทย์ชี้แจงในที่ประชุมว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุสามารถตอบคำถามได้ดี ไม่ได้ให้การสับสนเมื่อถามถึงเหตุการณ์ที่ก่อเหตุ ผู้ต้องหาอ้างว่าให้การไม่ได้ จำไม่ได้ตามที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่ามีประวัติการรักษาทางด้านจิตเวช จากการค้นหาข้อมูลพบว่าตัวผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติการรักษาในด้านจิตเวชเลย ทั้งในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น หรือจังหวัดอื่น ดังนั้น ตอนนี้จึงฟันธงไม่ได้ว่าตัวผู้ก่อเหตุมีประวัติทางด้านจิตเวชหรือเปล่า แต่มีประวัติการใช้สารเสพติดและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการตรวจสภาพจิตและประเมินผลการตรวจปัสสาวะ ผลตรวจเลือดต้องขอเวลายืนยันข้อมูลที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผู้ก่อเหตุมีสติสัมปชัญญะดี แต่เราต้องการหลักฐานทางการแพทย์มาประกอบ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งไปที่โรงพยาบาลอุดรธานีเพื่อทำการตรวจสภาพร่างกาย เพราะเราเชื่อว่าในขณะที่ก่อเหตุทำการจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีพยานหลักฐานในการประกอบคดีว่าผู้ก่อเหตุมีสติสัมปชัญญะดีหรือไม่ จุดนี้คือประเด็นสำคัญใช้ประกอบดำเนินคดี ซึ่งทางตำรวจแจ้งข้อหาต่อคนร้ายรายนี้ไปแล้วคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐานขณะนี้เรามีประจักษ์พยานครบถ้วน เชื่อว่าพยานหลักฐานที่ตำรวจได้มาจะเพียงพอใช้ในการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหารายนี้ได้ อย่างไรก็ดีเชื่อว่าการพิจารณาในชั้นศาลน่าจะถูกลงโทษหนัก ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในชั้นพนักงานสอบสวน ได้มีญาติผู้ต้องหา คือลุง เข้ามาให้การต่อพนักงานสอบสวนแล้ว โดยเบื้องต้นให้การว่าผู้ก่อเหตุเคยมาทำงานกับลุงที่หนองวัวซอ ไม่พบอาการคลุ้มคลั่งเป็นคนพูดจารู้เรื่องปกติดี
ขอบคุณ mgronline