จากกรณี หนุ่มคนงานฟาร์มหมู ขี่รถจักรยานยนต์พาเพื่อนบ้านมาเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เกิดอาการคลั่ง ใช้มีดแหลมไล่แทงผู้หญิงและเด็กจนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 5 คน ก่อนถูกตำรวจและอาสากู้ภัยจำนวนมากล้อมจับได้พร้อมมีดปลายแหลม แต่ให้การไม่รู้เรื่องวกไปวนมา อ้างเสพยาบ้ามา 2 เม็ด และเคยป่วยจิตเวช

หลังจากที่ตำรวจนำไปตรวจหาสารเสพติดและตรวจสภาพจิตที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี และแจ้งข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เหตุเกิดบ่ายวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ทว่าแพทย์ระบุว่าไม่พบสารเสพติดและจิตปกติ

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. นายสุติ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี และนางนันทนา (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 420/1 หมู่ 1 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี พ่อแม่ น.ส.ชลดา (สงวนนามสกุล) หรือ น้องจูน อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการทั่วไป มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี 1 ในเหยื่อคลั่ง ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้นำร่างของ น้องจูน ออกจาก รพ.ศูนย์อุดรธานี มาตั้งสวดอภิธรรมที่ศาลาพุทธรักษา 1 วัดโพธิสมภรณ์ (พระอารามหลวง) เขตเทศบาลนครอุดรธานี ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าโศก ของญาติ เพื่อน พี่น้องที่เดินทางมาร่วมงานเพื่อไว้อาลัย

นายสุติ กล่าวด้วยเสียงสะอื้นว่า หลังทราบข่าวร้ายทางครอบครัวถึงกับช็อก เพราะ น้องจูน เป็นเด็กดี ขยัน ตั้งใจเรียน เรียนดีมาตลอด ทราบว่าจะได้เกียรตินิยม ขณะนี้กำลังฝึกงานอยู่ที่ธนาคารออมสิน สาขาบงคำ ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังฝึกงานจบ ลูกบอกว่าธนาคารจะรับเข้าทำงาน น้องจึงเป็นความหวังของครอบครัว ก่อนเกิดเหตุลูกไปกินส้มตำ ที่ตลาดไทยอีสานแล้วโดนแทงจนเสียชีวิต ก็อยากให้ทางตำรวจดำเนินคดีกับคนร้ายจนถึงที่สุด

นางนันทนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวมีอาชีพขายปลาทูนึ่งอยู่ที่ตลาดโพศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย น้องจูน เป็นคนเล็กเขาเป็นเด็กดี เรียนดี กำลังจะเรียนจบ และได้งานทำหลังเรียนจบ น้องจูน เรียนดีได้เกรดเอมาตลอด แถมยังเป็นคนประหยัด จะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยไหนก็ได้ แต่อยากเรียนที่อุดรธานี เพื่อจะได้อยู่ใกล้ครอบครัว

ก่อนเกิดเหตุลูกมาบอกแม่ว่าจะไปหาเพื่อนไปกินส้มตำ แล้วใส่รองเท้าคู่ละ 50 บาท แต่บอกว่ารองเท้าลอกหลุดจะไปซื้อกาวมาติด แต่ใส่ครั้งเดียวก็คุ้มแล้ว แต่ตนไม่คิดว่าจะเป็นลาง เพราะไม่มีลางบอกเหตุอะไร น้องจูน เป็นความหวังของครอบครัว เพื่อดูแลพ่อแม่ เพราะเรียนสูงที่สุด เมื่อไม่มีน้องจูนแล้ว ไม่รู้จะหาเงินไปให้ใคร ขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่ประหารคนร้ายให้ตายตกไปตามกัน

ด้าน น.ส.ดาราพร (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี เพื่อนสนิทน้องจูน บอกว่า น้องจูนเป็นคนเรียนเก่ง เรียนได้เกรด 4.00 น. และได้เกียรตินิยมอันดับ 1 แต่น้องจูนชอบช่วยเหลือเพื่อน เป็นคนมีน้ำใจ เพื่อนต้องการอะไรจะหามาให้หมด หลังทราบข่าวรู้สึกใจหายที่เพื่อนประสบเหตุ เพราะอีก 2 เดือน ฝึกงานเสร็จก็จะเรียนจบแล้ว ขอให้เพื่อนไปสู่ภพภูมิที่ดี เป็นนางฟ้าบนสวรรค์ เกิดชาติหน้าก็ขอให้ได้เป็นเพื่อนกันอีก

ในเวลาต่อมา นายศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาวางพวงหรีด เพื่อแสดงความเสียใจกับครอบครัว น.ส.ชลดา พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือ ปลอบใจและให้กำลังครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ ที่สูญเสียคนที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ

เรียบเรียง mumkhao