จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปการสนทนากับแม่ค้าขายอาหารอีสานรายหนึ่ง ในถนนคนเดินเทศบาลนครอุบลราชธานี ระบุข้อความ เรื่องมีอยู่ว่าร้านนี้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ซึ่งราคาป้าย 100 บาท สแกนจ่ายคนละครึ่งก็จะเหลือ 50 บาท แต่ทางร้านกดในเครื่องแม่ค้าไป 110 บาท และจ่ายเกินไป 5 บาท เราขอเงินคืนโดยจะจ่ายเป็นเงินสดแทน ทางเราก็ถามแม่ค้าว่า ทำไมคนละครึ่งต้องบวกเพิ่ม 10 บาท แต่แม่ค้าตอบกลับมาว่า แม่ค้าต้องจ่ายค่าเน็ตเดือนละ 400 บาท

หาทางเอาเปรียบลูกค้าจนได้

ต่อมาวันนี้ (29 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง น.ส.อรนภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทย าลัยแห่งหนึ่ง เจ้าของโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.24 น. วันนี้ ตนและเพื่อนอีก 4 คน ได้ไปซื้ออาหารอีสานจุ๊เนื้อ กับร้านค้าร้านหนึ่ง ในถนนคนเดินของเทศบาลนครอุบลราชธานี

หลังจากแม่ค้าทำเสร็จ ได้ตกลงจะจ่ายเงินในโครงการคนละครึ่ง จำนวน 100 บาท ตามป้ายหน้าร้าน แต่เมื่อแม่ค้าให้สแกนกลับเป็นเงิน 110 บาท ซึ่งเกินจากราคาป้าย ตนจึงถามแม่ค้าตอบว่า หากลูกค้าจ่ายในโครงการคนละครึ่งต้องบวกเพิ่ม 10 บาท เนื่องจากแม่ค้าต้องจ่ายค่าเน็ตเดือนละ 400 บาท เมื่อขอเงินคืนแล้วจ่ายเป็นเงินสดแทน ก็ไม่ยอมบอกมีค่าเท่ากัน

น.ส.อรนภา เปิดเผยต่อว่า เรื่องเงิน 10 บาท ตนไม่ติดใจ แต่ตนคิดว่าไม่ยุติธรรม ลูกค้าเป็นผู้บริโภคก็ต้องใช้อินเตอร์เน็ตเหมือนกัน ทำไมต้องมาบวกเพิ่มและราคาป้ายหน้าร้านก็ไม่มีระบุไว้ว่า ต้องบวกเพิ่มหากจ่ายค่าสินค้าตามโครงการคนละครึ่ง และที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้นั้น ไม่ต้องการเอาเงินคืน แต่ต้องการเตือนให้ทุกคนทราบว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย

ขอบคุณ ไทยรัฐ