ตากข้าวเป็นเหตุ สาวท้องแก่ซิ่งชนรถใหญ่เด็กโคม่า เจ้าของจวกขับเร็ว
จากกรณีมีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพหญิงสาวรายหนึ่งชื่อนางสาวดาราทิพย์ ศรีสุขกลาง เป็นหญิงท้องแก่ ตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน นอนอยู่บนลานตากข้าว สภาพมีแผลที่ศีรษะเป็นรอยแตก และหัวเข่าด้านซ้ายหัก มีแผลถลอกที่บริเวณหัวเข่า
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณลานข้าวกลางถนนเส้นรอบหมู่บ้าน บ้านโคกพะงาด ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ซึ่งเกิดเหตุเวลา 18.00 น. ของวันที่ 23 พ.ย. 63
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
วันที่ 24 พ.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังที่เกิดเหตุ ที่บริเวณถนนเส้นรอบ บ้านโคกพะงาด ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา สภาพเป็นถนนลาดยางสองเลน โดยชาวบ้านจะแบ่งตากข้าว 1 เลน มีลานตากข้าวของชาวบ้านยาวกว่า 3 กิโลเมตร
ซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุที่นางสาวดาราทิพย์ ประสบอุบัติเหตุนั้น เป็นลานตากข้าวของนางพุธ บัวนาค ชาวบ้านโคกพะงาด มีคราบเลือ ดของผู้บาดเจ็บติดตามถนนลาดยาง และตามผ้าที่ใช้ตากข้าว
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น. ตอนเกิดเหตุเหลือช่องทางเดินรถเพียงช่องทางเดียว อีกเลนเป็นลานตากข้าวของชาวบ้าน ที่ตากเรียงกันยาวกว่า 3 กิโลเมตร โดยมีมีรถกระบะสีขาวของชาวบ้านคันหนึ่งกำลังจะขับออกมาจากซอย ส่วนหน้ารถกระบะยื่นออกมาที่ถนน จากนั้นนางสาวดาราทิพย์ ขับรถจักรยานยนต์สีแดงดำมาทางตรง ทำให้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปชนกับรถกระบะ ร่างของนางสาวดาราทิพย์กระเด็นจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 3 เมตร ไปตกใส่ลานตากข้าวบนถนน
นายวินัช ผ่องพันธ์ ตาของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า สำหรับนางสาวดาราทิพย์ หลานสาวของตนเองตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน และอีก 15 วันจะครบกำหนดคลอด ส่วนเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่รู้ว่าหลานสาวประสบอุบัติเหตุมาจากสาเหตุอะไร โดยตอนนี้หลานสาวได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา สำหรับอาการบาดเจ็บของหลานสาวตนเองตอนนี้ ลูกที่อยู่ในครรภ์มีอาการ 50/50 เป็นตายเท่ากัน ส่วนอาการของนางสาวดาราทิพย์ แพทย์ได้ทำการผ่าตัดเข่าเพื่อรักษาอาการแล้ว
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
เหตุที่หลานสาวตนประสบอุบัติเหตุ ตนคิดว่าคงไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ชาวบ้านที่ตากข้าวอยู่ถนนแต่อย่างใด คาดว่าอาจเกี่ยวข้องที่หลานสาวหรือคนขับรถกระบะมองไม่เห็นกัน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น ทั้งนี้ ตนก็อยากให้มีคนรับผิดชอบ ตนเองไม่โทษเจ้าของลานตากข้าว แต่หลังจากหลานสาวออกขากโรงพยาบาล ก็อาจเรียกเขาเข้ามาพูดคุยเรื่องค่าเยียวยา
ด้านนางพุธ บัวนาค เจ้าของลานตากข้าว พาทีมข่าวไปชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งลานตากข้าวของนางพุธ มีคราบเลือดของผู้บาดเจ็บติดอยู่สำหรับลานตากข้าวของนางพุธ มีการตากบนถนนลาดยางเส้นรอบบ้านโคกพะงาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ยาวกว่า 300 เมตร ซึ่งจะมีการหมุนเวียนตากข้าวกันคนละ 2-3 วัน ก่อนที่ชาวบ้านรายอื่น ๆ จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนมากตากข่าวต่อ
นางพุธ เล่าว่า ฤดูการเก็บเกี่ยว ตนเองจะตากข้าวที่ถนนเส้นรอบหมู่บ้านทุกปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสักครั้ง ตอนเกิดเกตุ เวลาประมาณ 18.00 น. ของเมื่อวานนี้ มีรถกระบะคันสีขาวกำลังจะออกมาจากซอยในหมู่บ้าน จากนั้นนางสาวดาราทิพย์ ผู้บาดเจ็บ ก็ได้ขับรถมอเตอไซค์มาด้วยความเร็ว และชนเข้ากับรถกระบะ จนร่างตกอยู่ในลานข้าวของตนเอง และมีบาดแผลเป็นรอยแตกที่ศีรษะ และหัวเข่าด้านซ้าย สาเหตุที่เกิดขึ้น ตนก็คาดว่านางสาวดาราทิพย์น่าจะขับรถเร็ว จึงทำให้ประสบอุบัติเหตุ
ซึ่งครั้งก่อนเขาก็ยังเคยขับรถชนคนแก่มาแล้วอีกด้วย โดยเบื้องต้นทางด้านครอบครัวผู้บาดเจ็บก็ยังไม่ได้เรียกร้องให้ตนรับผิดชอบ แต่หลังจากนี้ตนก็จะคอยดูท่าทีว่าเขาจะเข้ามาพูดคุยกับตนอย่างไรบ้าง ตนยอมรับว่าการตากข้าวของชาวนาทำให้การจราจรไม่สะดวกจริง ๆ แต่ตนเองก็ยินดีให้คนที่ใช้รถใช้ถนน ถ้าการจราจรติดขัดจริง ๆ ก็สามารถขับเหยียบข้าวของตนเองที่ตากอยู่ได้ เหตุการณ์นี้ตนก็อยากขอโทษด้วย อยากฝากบอกคนที่ใช้รถใช้ถนนว่าถ้าเห็นตากข้าวอยู่ก็ให้ช่วยขับรถกันช้า ๆ ด้วย
นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิตะ ให้ข้อมูลว่า การที่ประชาชนนำข้าวมาตากบนถนน เจ้าของข้าวมีความผิด 2 ส่วน ทั้งแพ่ง และอาญา โดยความผิดทางอาญาในกรณีที่ตากข้าวบนถนน ผิดตามพ.ร.บ.ทางหลวง 2535 มาตรา 39 มาตรา 72 ห้ามนำสิ่งใดมาวางขวาง หรือวางบนทางหลวง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ บนทางหลวง ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือบุคคล หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนั้น จะมีความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 มาตรา 114 มาตรา 148 ห้ามวางสิ่งใด หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ที่เป็นการกีดขวางทางจราจร เว้นแต่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท, ความผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 มาตรา 19 มาตรา 57 มีหลักว่า ห้ามวางวัตถุใด ๆ บนถนน หากฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ส่วนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 ผู้ใดกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของหรือกระทำด้วยประการอื่นใด ถ้าการกระทำนั้นเป็นการกระทำโดยไม่จำเป็น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท