วันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ของพรรคเดโมแครต สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้ได้รับคะแนนป๊อปปูลาร์ โหวต หรือ คะแนนของผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากที่สุด

อย่างที่ไม่เคยมีผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใดทำได้มาก่อน รายงานระบุว่า เมื่อเวลา 14.30 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ไบเดนได้คะแนนเสียง 69,949,918 คะแนน และการนับคะแนนยังคงดำเนินอยู่ แต่ก็ได้ชื่อว่าแซงอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่เคยทำได้ 69,498,516 total คะแนน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2008

การเลือกตั้งครั้งนี้ ยังสร้างสถิติมีผู้ออกไปใช้สิทธิ์มากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2451 โดยคิดเป็น 65 เปอร์เซ็น ของชาวอเมริกันที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง หรือราว 160 ล้านคน แต่ผู้เชี่ยวชาญ ก็มองว่า คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตของ โจ ไบเดน กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่น่าจะห่างกันมากนัก

โดยคาดว่า ไบเดนน่าจะได้ราว 80 ล้านคะแนน ส่วนของทรัมป์ก็อาจอยู่ที่ราวๆ 73-75 ล้านเสียง ก็เป็นสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เพราะถือว่าแซงสถิติที่โอบามาทำไว้ทั้งคู่

แม้คะแนนนิยมสูงสุดหรือป๊อปปูลาร์โหวต และจำนวนคณะผู้เลือกตั้งสำหรับผู้สมัครทั้งสองคนยังไม่สมบูรณ์ แต่คะแนนเสียงของไบเดนถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่สหรัฐมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ทำลายสถิติ 69.4 ล้านคะแนน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2551

ซึ่งเป็นคะแนนของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ชนะนายจอห์น แมคเคน ตัวแทนของพรรครีพับลิกันในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม ระบบการเลือกตั้งสหรัฐฯ ผู้ที่ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดไม่ได้การันตีว่าจะได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีของประเทศนี้ แต่วัดกันที่จำนวนผู้แทนคณะเลือกตั้ง (Electoral Vote) ที่จะไปเลือกผู้นำประเทศอีกครั้งหนึ่ง