แม่วัย 62 ชีวิตพลิกผัน ลูกชายจากไปกะทันหัน แต่แม่ลุกขึ้นสู้สานฝันลูกชายจนสำเร็จ
เหตุการณ์พลิกผันในชีวิต แม่ตุ้มย้อนเล่าเรื่องราว ก่อนลูกชายจะจากไปอย่างกะทันหันในวันที่ 5 ม.ค. 63 ลูกมีความฝันอยากมีรถฟู้ดทรัก (Food Truck) ขายสเต๊ก และแม่ตุ้มได้ดาวน์รถฟู้ดทรักให้ เพื่อทำฝันลูกเป็นจริง โดยแม่ตุ้มและลูกชายได้วางแผนชีวิตเพื่อรองรับอนาคต ในทุกวันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุดของลูกชาย จะช่วยกันสามคนพ่อ แม่ลูกใช้รถฟู้ดทรักขายสเต๊ก หากขายรายได้ดีมากกว่างานประจำ จะให้ลูกชายออกจากงานมาขายสเต๊กอย่างจริงจัง ส่วนแม่ตุ้มแพลนไว้ว่าสิ้นปี 63 จะเกษียณตัวเองออกจากงานเช่นกัน
หลังได้รถฟู้ดทรักมาลูกชายทำทุกอย่างเพื่อฝันของตัวเอง ทั้งตั้งชื่อร้าน ออกแบบโลโก้ คิดหาทำเลจอดขาย และช่วยกันขายสเต็กกับพ่อแม่ได้เพียงครั้งเดียว จู่ๆ เวลาทุ่มกว่าๆ ในวันที่ 5 ม.ค. 63 ลูกชายวัย 37 กำลังขี่มอเตอร์ไซค์จะกลับบ้าน กลับถูกรถชนจนเสียชีวิต ก่อนถึงบ้านอีกเพียงแค่ 2 กิโลฯ
วินาทีรู้ข่าวร้าย ลูกชายเสียชีวิต หัวใจคนเป็นแม่แตกสลาย แม่ตุ้มบอก เสียใจที่สุดในชีวิต เพราะไม่มีลางสังหรณ์ใดๆ และไม่ได้ร่ำลากัน รู้สึกทำใจไม่ทัน ร้องไห้และคิดถึงแต่ลูกชายตลอดเวลา บางทีก็คิดว่าฝันไปหรือเปล่า นี่เรื่องจริงใช่ไหม ทำไมต้องเป็นลูกเรา ไม่มีวันไหนนอนหลับได้สนิท ยิ่งมองรถฟู้ดทรักที่เป็นความฝันของลูกทีไรน้ำตาไหลทุกที กว่าจะทำใจได้ใช้เวลาเกือบเดือน แม่ตุ้มจำความรู้สึกวันสูญเสียลูกชายได้ดีว่า
หัวใจสลายมาก แทบไม่อยากอยู่เลยจริงๆ รู้สึกว่าทำไมชีวิตรันทดจัง มีลูกคนเดียวก็รีบด่วนจาก แต่แม่ก็ไม่ได้มีอะไรติดค้างในใจว่ายังมีอะไรที่ไม่ได้ทำเพื่อลูกนะ เพราะตั้งแต่ท้องจนลูกโตอายุ 37 แม่ได้ทำหน้าที่ของแม่เต็มที่กับลูกที่สุดไปหมดแล้ว ทั้งเลี้ยงดู อบรม สั่งสอน ชี้แนะให้ดำเนินชีวิตในทางที่ดี ซึ่งลูกก็ไม่เคยทำให้แม่ทุกข์ใจ เสียใจเลยสักครั้ง
หลังเริ่มทำใจยอมรับความจริงได้ เพื่อไม่ให้ลูกชายเป็นห่วง อีกทั้งแม่ตุ้มเชื่อว่าลูกเฝ้ามองดูความฝันตัวเอง และคอยให้กำลังใจจากสวรรค์ แม่ตุ้มจึงมีพลังสู้ชีวิตต่อไป ถึงแม้ไม่มีลูกให้กอด หอม แต่ลูกอยู่ในหัวใจเสมอ และรู้สึกว่าลูกอยู่ด้วยตลอด เพราะก่อนไปทำงาน ก่อนนอนจะเล่าสารทุกข์สุกดิบกับรูปลูกทุกวัน มรสุมชีวิตครั้งใหญ่กำลังค่อยๆ ผ่านไป แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หลังลูกเสียชีวิตได้ 2 เดือน จู่ๆ ในเดือน มี.ค. 63 แม่ตุ้มต้องตกงานเซ่นพิษโควิด-19 (COVID-19) บริษัทปรับโครงสร้างลดเงินเดือน จากมีรายได้เดือนละ 7 หมื่น (เงินเดือน และค่าคอมมิชชั่น) เหลือเพียงเดือนละ 11,000 บาท
ทำบุญ 100 วันให้ลูกชาย แม่ตุ้มบอก บริษัทไม่ได้ไล่ออก แต่หากรับข้อเสนอได้ สามารถทำงานต่อไปได้ ซึ่งเพื่อนร่วมงานบางคนเลือกอยู่ต่อ แต่แม่ตุ้มคิดทบทวนแล้ว เงินเดือนหลังหักค่าประกันสังคมก็เหลือไม่มาก ไม่พอใช้จ่ายในครอบครัวแน่นอนเพราะต้องผ่อนค่างวดรถฟู้ดทรักเดือนละ 8 พันกว่าบาท อีกทั้งมีความประสงค์จะออกงานสิ้นปี 63 อยู่แล้ว จึงตัดสินใจลาออกมาขายสเต๊ก เพื่อความอยู่รอดและสานฝันให้ลูกชาย
1 เม.ย. 63 วันดีเดย์ แม่ตุ้มและสามีขับรถสเต๊กมาจอดขายริมฟุตปาทหน้าหมู่บ้านแพรมาพรเพลส ถ.รังสิต-นครนายก วันแรกขายได้ 3 พันกว่าบาท เพราะย่านนั้นยังไม่มีคนขายสเต็ก ทำให้ขายดีทุกวัน เมื่อถึงสิ้นเดือน สรุปรายได้รวมแสนกว่าบาท หลังหักค่าใช้จ่ายที่ต้องผ่อนรถฟู้ดทรัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าใช้จ่ายในครอบครัว เหลือเงินกินใช้ตามวัยกับสามีประมาณ 3-4 หมื่นบาท
อบรมการทำอาหารร่วมกับลูกชาย เหตุที่ทำให้ขายดีจนมีเงินเหลือเลี้ยงตัวเองได้ แม่ตุ้มบอกรสชาติถูกปากลูกค้า เพราะสูตรหมักสเต๊ก 2 วันก่อนขายและสูตรน้ำเกรวี่ที่คิดขึ้นมาเองจากประสบการณ์ในวงการอาหาร และคลุกคลีกับสเต๊กมา 45 ปี มีความเป็นฟู้ดไซน์ Food Science ในหัวก็นำมาอะแดป ปรับแก้ไขจนได้สูตรเฉพาะ เช่น น้ำเกรวี่ราดสเต๊กเนื้อ หมู ดัดแปลงจนมีรสชาติเทียบเท่าสูตรต่างชาติโดยใส่ไขมันจากธรรมชาติ คือ น้ำกะทิคั้น
จนถึงวันนี้กว่า 7 เดือนแล้วที่แม่ตุ้มมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัย 62 มาสานต่อฝันลูกชาย เป็นแม่ค้าขายสเต๊กที่ทำเองทุกอย่างทั้งหมัก ทอด เสิร์ฟ ด้วยอายุที่มาก แม้จะเหนื่อย ปวดเมื่อยเนื้อตัวบ้าง แต่แม่ตุ้มบอก ทั้งหมดคือความสุข ยิ่งทำยิ่งภาคภูมิใจที่ทำเพื่อลูกได้สำเร็จ และสิ่งสำคัญคือได้เล่าถึงลูกอยู่เสมอ เวลาคนถาม ทำไมตั้งชื่อ สเต็กฅน"กาง"แจ้ง ที่เกิดจากลูกชายชอบเที่ยวป่า กางเต็นท์นอน และชอบนำเนื้อไปย่างกินในป่า ความรู้สึกทุกครั้งที่ได้พูดถึงลูก แม่ตุ้มบอกว่า
พอได้พูดถึงลูกรู้สึกมีความสุข รถขายสเต็กที่เขาทิ้งไว้ให้มีคุณค่าต่อใจมาก เหมือนเป็นตัวแทนลูก ถึงแรงจะถอยตามวัย แต่ตอนนี้ใจเหนือแรงมันไม่เหนื่อยเลย เพราะแม่กับพ่อช่วยกันทำจากหัวใจ ให้ลูกที่รัก เพราะเป็นสิ่งเดียวที่แม่ทำให้ลูกได้ และคิดว่าลูกรับรู้ช่วยเป็นกำลังใจให้แม่จากสวรรค์ เลยทำให้มีพลังสู้ทุกวัน
นอกจากนี้เพื่อสื่อความรู้สึกถึงลูก แม่ตุ้มจะคุยกับรูปลูกทุกวัน เล่าให้ฟังแต่ละวันขายสเต๊กเป็นอย่างไร ขายดีก็มาบอก ก่อนออกจากบ้านก็มาเล่าจะไปขายสเต๊กที่ไหน เพราะบางครั้งต้องนำรถฟู้ดทรักไปออกอีเวนต์ในต่างจังหวัด แต่จะไม่ชวนให้ลูกไปด้วยเพราะไม่งั้นลูกจะไม่ได้ไปสู่ภพภูมิอื่น
จากเริ่มขายเฉพาะ Food Truck หน้าหมู่บ้าน ปัจจุบันแม่ตุ้ม เซ้งตึกเปิดขายในหมู่บ้าน และขายใน Market Village Rangsit ส่วน Food Truck ขายเฉพาะงานอีเว้นท์ เหตุที่ขยายสาขาเพราะอยากให้ความฝันของลูกมีคนรู้จักมากขึ้น สเต๊กหมู ไก่ ปลา ขายราคาเริ่มต้น 59 บาท ราคาสูงสุด 150 บาทเป็นสเต็ก เนื้อ พอร์คชอพ ปลาแซลมอน ลูกค้ามักถามประจำ ขายราคานี้ได้กำไรหรือ แม่ตุ้มก็ตอบทุกครั้งอย่างมีความสุข ขายในราคาเท่าที่อยู่ได้ ไม่ได้เอากำไรเยอะเพราะ ไม่ต้องการรวย ขอแค่ให้คนกินมีความสุข และสิ่งสำคัญได้ทำตามเป้าหมาย สานฝันให้ลูกได้สำเร็จคือกำไรแห่งความสุขที่มากคุณค่าแล้ว
ตอนนี้เน้นการแบ่งปัน ใครทุนน้อยต้องการมาศึกษาเรื่องสเต๊ก แม่ตุ้มยินดีถ่ายทอดวิชาความรู้ฟรี บางคนติดต่อมาขอใช้แรงทำงานแลกกับสูตรเพื่อนำไปขายเองแม่ตุ้มก็ไม่ปฏิเสธ ในอนาคตจะทำสเต๊กรถเข็นซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการผลิต คิดไอเดียได้จากลูกค้าภาคใต้โทรมาบอกอยากขายสเต๊กแต่ไม่มีเงินลงทุนสูงซื้อรถฟู้ดทรัก ถึงแม้จะอายุมากถึง 62 และสามีที่ช่วยขายอายุ 67 สูงอายุกันทั้งคู่ แต่ทั้งสองขอสู้และขายสเต๊กสานต่อฝันลูกชายต่อจนกว่าจะไม่มีแรงทำ แม่ก็จะขายสเต๊กไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทำไม่ไหว เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้แม่ได้สื่อถึงลูก เป็นความผูกพันเดียวที่แม้ว่าลูกจากไปแล้ว แต่เเม่เชื่อว่าลูกให้กำลังใจแม่อยู่ตลอดเวลาจากบนฟ้า แม่ตุ้มกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์