เสี่ยโป้ เสี่ยบุ๊ก โร่พบตร เปิดปมยิงเดือด แฉคู่กรณี ก่อนถูกจับคาโรงพัก
จากกรณีสาวโพสต์เฟซบุ๊กถึงเหตุชุลมุนหน้าร้านนวดแผนไทย สรี เซาว์น่าแอนด์สปา ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. โดยอ้าง "เสี่ยโป้ อานนท์" ยิงน้องชายบาดเจ็บ 2 ราย หลังท้าต่อยกันตัวต่อตัว ขณะที่ ผกก.สน.ภาษีเจริญ นำเจ้าหน้าที่และประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานรุดตรวจที่เกิดเหตุ โดยยังไม่ยืนยันมือปืนคือใคร ขอเวลาเช็กวงจรปิดก่อน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ภาพจาก ข่าวสด
ล่าสุดเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 29 ต.ค.2563 ที่ สน.ภาษีเจริญ นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ อายุ 28 ปี และ นายเขมทัต ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยบุ๊ก อายุ 25 ปี น้องชาย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมเกียรติ กิจประภานันท์ รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ เพื่อลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากถูกกล่าวหาเป็นมือปืนยิงกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีหน้าร้านนวดแผนโบราณสรี เซาว์น่าแอนด์สปา ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกัน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา นายอภิรักษ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนใช้บริการเซาว์น่าในร้านดังกล่าวตามปกติ โดยอยู่กับพรรคพวกอีกแค่ 3 คน ขณะที่ นายเขมทัต น้องชายตน ซึ่งมีเรื่องกับ นายตั้ง และ นายตั๊ว อยู่แล้ว และได้นัดหมายไปเจรจากับคู่กรณีที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งริมถนนราชพฤกษ์ ซึ่งอยู่ห่างจากร้านเซาว์น่าไปไม่กี่กิโลเมตร ต่อมา นายเขมทัตซึ่งเข้าใจว่าเจรจากับคู่กรณีตกลงกันไม่ได้ ก็พาเพื่อน ๆ อีกราว 10 คน ถอยมาหาตนที่ร้านเซาว์น่า
นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า จังหวะนั้น ตนก็ยืนอยู่ด้านบนร้านตามภาพที่ปรากฏ ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นคู่กรณียกพวกเข้ามาประมาณ 200 คน จนตนเห็นว่าคู่กรณีมีการชักอาวุธปืนหันเล็งมาที่ตน ตนก็รีบหลบและมีเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่องกันกว่า 60 นัด ซึ่งตนยืนยันว่าตนหลบและวิ่งหนีตายออกจากจุดที่ยืนอยู่ตั้งแต่นัดแรกแล้ว และตนก็ไม่ได้มีอาวุธปืนติดตัวด้วยแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุตนกับน้องชายเป็นฝ่ายเดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนก่อนตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 22.30 น.ของวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ เสี่ยโป้ กล่าวอีกว่า หลังแจ้งความทางตำรวจก็เดินทางไปเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดก็เก็บไปด้วยจึงอยากฝาก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ช่วยดูภาพจากกล้องให้ตนด้วยว่าพวกตนมีน้อยกว่า ขณะที่ฝั่งคู่กรณีอ้างว่ามากันแค่ 20 คน หนำซ้ำยังให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าตนยิงเปิดทางให้ลูกน้องแหวกออกเพื่อยิงใส่คนเจ็บ ตนอยากถามจริง ๆ ว่าเหตุการณ์มันจะเป็นแบบนั้นไปได้จริงหรือ เมื่อตนยืนอยู่ด้านบน ส่วนตนก็หลบกระสุนตั้งแต่ได้ยินเสียงปืนนัดแรกแล้ว
ภาพจาก ข่าวสด
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตอนนั้นหากถามว่าใครยิงใคร ตนบอกได้เลยว่าไม่รู้ เพราะคนเยอะไปหมด แต่ถ้าจะถามว่าใครอยู่ตรงนั้นบ้างจำได้ตัวหลัก ๆ ก็มี แอล โอรส, เอ็มโก๋ ตากสิน, ตั๊ว พรานนก และ ตั้ง พรานนก ซึ่งเป็นลูกสมุนของนายตั๊ว "ผมไม่ได้ยิงใคร ไม่ได้หลบหนีไปต่างประเทศอย่างที่ฝ่ายคู่กรณีให้ข่าว เซาว์น่าแห่งนี้ผมใช้บริการทุกวัน มีแต่นักธุรกิจและผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทใด ๆ เกิดขึ้น แต่หลังเกิดเหตุการณ์ทราบว่า บิดาของคู่กรณีซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตประกอบกิจการขึ้นชื่อว่าลอยฟ้า กับบิดาของสมุนคู่กรณีที่เป็นอดีตตำรวจได้มีคำสั่งให้ทางตำรวจท้องที่ดำเนินการออกหมายจับพวกผม ทั้งที่ผมไม่ได้มีความผิดอะไร ทำให้ตอนนี้กล้าพูดได้เลยว่าฝ่ายผมต้องกลัวฝ่ายคู่กรณี ไม่ใช่ฝ่ายคู่กรณีจะต้องมากลัวผม พอเรื่องผ่านมา 1-2 วัน ผมเห็นว่าข้อเท็จจริงมันไม่ใช่จึงปรึกษา พ.ต.ท.สันธนะ ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ให้พามาลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ" เสี่ยโป้ กล่าว
นายเขมทัต กล่าวต่อว่า เมื่อตนตัดสินใจติดต่อกลับไป ปรากฏว่า ฝ่ายคู่กรณีเปิดประเด็นทะเลาะวิวาทนัดหมายให้ตนไปเจอเพื่อเจรจาที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งริมถนนราชพฤกษ์ แต่พอตนเดินทางไปถึงพบว่ามีชายฉกรรจ์ขับรถ จยย. จำนวน 4-5 คันมาวน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงพาเพื่อน ๆ ล่าถอยกลับไปหาพี่ชายที่เซาว์น่า กระทั่งเกิดเหตุการณ์ขึ้นดังกล่าว ด้าน นาย หรือ อดีตพ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อายุ 59 ปี อดีต รองผกก.สันติบาล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่เด็ก ๆ ทั้ง 2 กลุ่มจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตนได้พยายามประสานให้เคลียร์ปัญหาแบบลูกผู้ชาย เนื่องจากฝ่ายเสี่ยโป้กับน้องชายนั้น ตนก็รู้จักกับครอบครัวมานาน ส่วนฝ่ายบิดาของคู่กรณีก็เป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของตน
โดยคนหนึ่งทำงานด้วยกันสมัยอยู่กองปราบปราม อีกคนทำงานด้วยกันสมัยอยู่ บช.น. นายสันธนะ กล่าวต่อว่า ในเมื่อแจ้งให้บิดามารดาของเด็ก ๆ ทั้ง 2 กลุ่มทราบแล้ว ตนก็เสนอให้เรื่องมันจบแบบนักเลงด้วยการให้ 2 ฝ่ายมาชกกันแบบตัวต่อตัวไม่อยากให้ไปก่อเหตุเป็นภาระสังคมกับเป็นภาระของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ด้วยความใจร้อนของวัยรุ่นจึงทำให้เหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้ ซึ่งตนก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าใครผิดใครถูก เพราะแต่ละฝ่ายก็ว่ากันไปมา แต่หลังเกิดเหตุมีคนเจ็บขึ้นกลับได้ยินฝ่ายคู่กรณีพูดถึงเงินค่าทำขวัญสูงถึง 10 ล้าน ตนก็ไม่เข้าใจว่าจะเอาลูกหลานมาขายในเหตุทะเลาะวิวาทแบบนี้หรือ จึงตัดสินใจพาเสี่ยโป้กับน้องชายเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ต่อมาเมื่อเวลา 04.30 น.ระหว่างที่ พ.ต.ท.สันธนะ กำลังจะพานายอภิรักษ์ และ นายเขมทัต กลับที่พักหลังลงบันทึกประจำวัน กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.ศิริชาติ จันทร์พรมมา รอง ผกก.ป.สน.ภาษีเจริญ และ พ.ต.ท.บริบูรณ์ จำปาดี สว.สส.สน.ภาษีเจริญ ได้นำหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 544/2563 ลงวันที่ 28 ต.ค.63
ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน มาแสดงให้นายอภิรักษ์ดู ทำให้นายอภิรักษ์ยอมให้ตำรวจควบคุมตัวขึ้นไปสอบสวนที่ห้องปฏิบัติการฝ่ายสืบสวน โดยชุดจับกุมได้ประสานทางกองพิสูจน์หลักฐานให้เดินทางมาเพื่อตรวจเขม่าดินปืนด้วย อย่างไรก็ตาม หลังเสี่ยโป้ถูกควบคุมตัวนายสันธนะยังแสดงความจำนงจะเป็นนายประกันให้ ซึ่งทางญาติ ๆ ของเสี่ยโป้ กำลังเตรียมหลักทรัพย์ไว้รอจำนวน 1 ล้านบาท แต่ยังไม่มีท่าทีว่าพนักงานสอบสวนจะอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนหรือไม่ อีกทั้ง มีรายงานว่ามีเพื่อนสนิทของเสี่ยโป้ ชื่อ "เสี่ยเคน" น่าจะถูกออกหมายจับด้วยในข้อหาเดียวกัน แต่ขณะนี้เสี่ยเคนก็ยังไม่ได้เดินทางมาที่ สน.ภาษีเจริญ แต่อย่างใด
ขอบคุณ ข่าวสด