กลุ่มนายทุนบุกรุกโค่นป่าต้นน้ำลำธารในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา แม่ทัพภาค 4 ส่งกำลังทหาร กอ.รมน.ภาค 4ส่วนหน้า ประสาน ตชด.ที่ 44 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ บุกยึดคืนผืนป่าบนภูเขาเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง หลังกลุ่มนายทุนว่าจ้างชาวบ้านเข้าไปแผ้วถาง ใช้เลื่อยโซ่ยนต์ตัดต้นไม้เหี้ยนกว่า 13 ไร่ เตรียมปลูกต้นทุเรียนเพราะได้ราคาดี เจ้าหน้าที่สนธิกำลังยึดคืนผืนป่าต้นน้ำปัตตานีครั้งนี้

เปิดเผยเมื่อช่วงสายวันที่ 25 ต.ค. พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4/ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 สั่งการให้ ร.ต.อ.อรุณ กุลกัลยา เจ้าหน้าที่คณะทำงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมกับ พ.ต.ท.อาคม โพธิ์อ่อง รอง ผบ.ฉก.ตชด.44 และนายภพ สิงหสุวรรณ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 (บ่อน้ำร้อน-จันทรัตน์) นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าถูกลักลอบตัดไม้บนภูเขาสูง ในพื้นที่เขตป่าสงวนต้นน้ำนิคมเบตง ป่าไม้ถาวร ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และอยู่ในเขตโครงการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและสัตว์ป่า สวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ พื้นที่ส่วนที่ 2 (ป่าสิริกิติ์) บ้านนากอ หมู่ 9 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เป็นป่าต้นน้ำเหนือทะเลสาบเขื่อนบางลาง ของแม่น้ำปัตตานี

ตรวจสอบพบมีกลุ่มบุคคลบุกรุกขึ้นไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่าเหนือฝายกันน้ำบ้านนากอ รวม 5 แปลง แปลงแรกอยู่บนภูเขา สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 538 เมตร คนร้ายใช้เลื่อยโซ่ยนต์ตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ 5 ต้น และใช้มีดพร้าตัดฟันต้นไม้ขนาดเล็ก ไม้ไผ่ ไม้พื้นล่าง มานานราว 10 เดือน พื้นที่ป่าไม้เสียหาย 4 ไร่ แปลงที่ 2 บนภูเขา สูงจากระดับน้ำทะเล 620 เมตร

ป่าไม้ถูกลักลอบตัดราว 3 เดือน พื้นที่ป่าไม้เสียหาย 1 ไร่ 3 งาน แปลงที่ 3 สูงจากระดับน้ำทะเล 647 เมตร ป่าไม้ถูกลักลอบตัดราว 2 เดือน พื้นที่ป่าไม้เสียหาย 1 ไร่ 2 งาน แปลงที่ 4 สูงจากระดับน้ำทะเล 665 เมตร ป่าไม้ถูกลักลอบตัด 2 เดือน พื้นที่ป่าไม้เสียหาย 1 ไร่ และแปลงที่ 5 สูงจากระดับน้ำทะเล 585 เมตร พื้นที่ป่าไม้ถาวรถูกลักลอบตัดไม้ 5 ไร่ พบมีดพร้า 2 เล่ม จอบ 1 ด้าม ตรวจยึดเป็นของกลาง แต่ไม่พบบุคคลผู้กระทำผิด

เจ้าหน้าที่ยังพบป่าถูกบุกรุกใหม่อีกจำนวนมาก สอบถามชาวบ้านทราบว่า มีกลุ่มนายทุนว่าจ้างชาวบ้านเข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อยึดถือครองที่ดินทำการเกษตร ปลูกต้นทุเรียนเพราะได้ราคาดี สาเหตุที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ตัดไม้ไม่ได้ เนื่องจากในจุดดังกล่าวมีสัญญาณโทรศัพท์ ผู้กระทำผิดโทร.บอกพรรคพวกตัดไม้ให้หลบหนีไป ก่อนกำลังเจ้าหน้าที่จะเดินเท้าเข้าไปถึง หลังตรวจสอบ วัดพิกัด

และปักป้ายยึดคืนพื้นที่ ได้มอบหมายให้ นายภพ สิงหสุวรรณ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 (บ่อน้ำร้อน-จันทรัตน์) จัดทำบันทึกกล่าวโทษ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และให้ประสานผู้ปกครองนิคมเบตง เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 ต่อพนักงานสอบสวน สภ.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ