เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม มีรายงานว่า ทางการอินเดียประกาศมอบเรือดำน้ำ INS Sindhuvir ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพลังงานดีเซลให้กับกองทัพเรือเมียนมา โดยเรือดำน้ำลำดังกล่าวเป็นเรือระดับ Kilo-class ของสหภาพโซเวียตที่อินเดียนำเข้าประจำการตั้งแต่ปี 2531 สามารถดำน้ำได้ลึกที่สุด 300 เมตร

แม้จะเป็นเรือดำน้ำเก่า แต่รัฐบาลอินเดียระบุว่า ก่อนส่งมอบให้กับเมียนมา ทางการอินเดียจะส่งเรือดำน้ำลำดังกล่าวไปซ่อมบำรุงที่บริษัท Hindustan Shipyard ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่พัฒนาเรือรบให้กับกองทัพอินเดียจนสมบูรณ์แบบ เรือดำน้ำลำนี้จะถือเป็นเรือดำน้ำลำแรกของเมียนมา โดยรัฐบาลเมียนมาจะตั้งชื่อใหม่เป็น UMS Minye Theinkhathu ซึ่งเป็นชื่อฮีโร่ตามประวัติศาสตร์ของชาติ

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาระบุถึงการรับมอบเรือดำน้ำจากอินเดียว่า จะมีส่วนช่วยทำให้กองทัพเรือเมียนมาพัฒนาไปได้ไกลขึ้น พร้อมยอมรับว่า กองทัพเมียนมามีแนวคิดเสริมเขี้ยวเล็บให้กับกองทัพเรือด้วยการให้มีเรือดำน้ำเข้าประจำการมาโดยตลอด ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่า เรือดำน้ำยุคสหภาพโซเวียตที่รัฐบาลอินเดียมอบให้เมียนมา จะมีส่วนช่วยฝึกกำลังพลในการใช้เรือดำน้ำ ก่อนจะมีเรือดำน้ำที่กองทัพเมียนมาสั่งจากรัสเซียมาประจำการเพิ่มในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

แม้รัฐบาลเมียนมาจะมีความใกล้ชิดกับประเทศจีน โดยเฉพาะการที่จีนเข้าไปลงทุนในโครงการต่างๆ ในเมียนมาจำนวนมหาศาล แต่เว็บไซต์ Hindustan Times ซึ่งเป็นสื่อในอินเดียรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ที่ผ่านมากองทัพเมียนมาไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะซื้อยุทโธปกรณ์จากจีน เนื่องจากมองว่าคุณภาพของสินค้าจีนไม่ได้มาตรฐาน ขณะเดียวกันกองทัพเมียนมายังมีความไม่พอใจที่พบว่า กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาที่จับอาวุธสู้กับรัฐบาลใช้ยุทโธปกรณ์จากจีนด้วย

เมียนมาเป็นประเทศที่มีพรมแดนทางบกติดกับอินเดียยาวถึงกว่า 1,600 กิโลเมตร ขณะเดียวกันก็มีพรมแดนทางทะเลร่วมกันในอ่าวเบงกอลด้วย ซึ่งสถานการณ์ในอ่าวเบงกอลตอนนี้มีความเคลื่อนไหวจากกองทัพจีนผ่านการให้ความช่วยเหลือบังกลาเทศสร้างฐานทัพเรือดำน้ำในเมืองค็อก บาซาร์

ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งอ่าวเบงกอล และเป็นพรมแดนของบังกลาเทศติดกับเมียนมา ยังไม่รวมข้อมูลที่ระบุว่า บังกลาเทศมีเรือดำน้ำจากจีนประจำการอยู่แล้ว 2 ลำ การส่งมอบเรือดำน้ำให้เมียนมาจึงเป็นยุทธศาสตร์ของอินเดียที่หวังต้านทานการขยายอิทธิพลของจีนในอ่าวเบงกอล ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดียยังไม่สู้ดีนัก หลังเกิดเหตุปะทะบริเวณแนวชายแดนของทั้งสองประเทศเมื่อช่วงกลางปี

ที่มา WorkpointTODAY