จากกรณีมีการส่งต่อภาพของนางชวร ซ่อนกลิ่น อายุ 65 ปี อยู่เลขที่ 26/1 หมู่ 14 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ที่ร่ำไห้ด้วยความดีใจระหว่างรอรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 500 บาท เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ห้างทวีกิจ สาขา อ.บ้านด่าน เนื่องจากรัฐบาลอนุมัติเงินช่วยเหลือ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรฯ ประมาณ 14 ล้านคน อีกเดือนละ 500 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน

กระทั่งมาทราบต่อมาว่า นางชวร ซ่อนกลิ่น นั้นร่ำไห้เพราะความดีใจที่จะมีอาหารมาต่อชีวิตให้กับ 3 ชีวิตในครอบครัว เพราะทั้งบ้านไม่มีอาหาร ไม่มีเงินติดตัว ซึ่งเป็นภาพที่น่าสงสารต่อผู้พบเห็นและพนักงานของห้างฯเป็นอย่างมาก

สู้ๆนะค่ะ

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 9 ต.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านของนางชวร ซ่อนกลิ่น พบเป็นบ้านไม้ยกสูงเลขที่ 26/1 หมู่ 14 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน ซึ่งเป็นบ้านของน้องสาว ทั้งหมดอยู่ด้วยกัน 3 คน มีสามีอายุ 67 ปี และลูกชายอายุ 35 ปี โดย นางชวร เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน ลูกสาวแต่งงานแล้วหายไปติดต่อไม่ได้ ลูกชายทำงานเป็น รปภ.ที่กรุงเทพฯ แล้วกลับบ้าน ก่อนจะมาไม่สบาย ตอนนี้อยู่ด้วยกัน 3 ชีวิต

สาเหตุที่ร่ำไห้ที่ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตเพราะดีใจสุดชีวิต เมื่อรู้ว่าสามารถใช้บัตรซื้อของได้อีก 500 บาท เพราะทั้งบ้านไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว มีเพียงข้าวสารที่ใช้เงินเบี้ยคนชราไปซื้อไว้ ส่วนกับข้าวกินน้ำพริกทั้ง 3 เวลา เงินจำนวน 500 บาท ที่ได้จากรัฐบาลครั้งนี้ถือว่าต่อชีวิตได้จริงๆ

น่าสงสารมาก

นางสุวรรณี รีเตอร์ อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านนางชวร กล่าวว่า เป็นครอบครัวที่น่าสงสาร เพราะเสาหลักของบ้านคือลูกชายที่ไปทำงานส่งเงินมาให้พ่อแม่กลับมาไม่สบาย เท่ากับทั้ง 3 ชีวิตจะมีรายได้จากเบี้ยคนชรารวมกันเดือนละ 1,200 บาทเท่านั้น ส่วนบ้านนั้นน้องสาวให้เฝ้าให้ นางชวรมีเพียงที่ดินเปล่าซึ่งเป็นมรดกของแม่ แต่ยังไม่มีเงินสร้างเป็นที่อยู่อาศัย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากมีการนำเสนอความทุกข์ของนางชวร โลกออนไลน์ต่างออกมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ล่าสุดนายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.ในพื้นที่ ได้ให้ทีมงานนำข้าวสารไปมอบให้เบื้องต้นแล้ว

อย่างไรก็เป็นกำลังใจให้นะค่ะ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยไปดูแลด้วยค่ะ

ขอบคุณ คมชัดลึก