เตรียมลงทะเบียน คนละครึ่ง รับเงิน 3000 ผู้ถือบัตรคนจนได้ 1500 ใช้ได้เลย
เตรียมเปิดให้เริ่มลงทะเบียน www.คนละครึ่ง.com วันที่ 16 ต.ค.นี้ ใช้เงินได้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.เป็นต้นไป ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ด้วย 1500 บาท กดเงินสดผ่านบัตร บุคคลทั่วไปต้องจ่ายเอง 3000 บาท รัฐสมทบ 3000 บาท นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
กระทรวงการคลังจะเร่งสรุปรายละเอียดมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ หรือมาตรการ คนละครึ่ง และเพิ่มกำลังซื้อให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย และประชาชนทั่วไปภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ครม.ในวันที่ 22 ก.ย.63 หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ ศบศ. เห็นชอบหลักการเมื่อวันพุธที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนร้านค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จะเป็นร้านค้ารายย่อยทั่วไป แต่ไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อให้ร้านค้ารายย่อยได้ประโยชน์มากที่สุด โดยรัฐบาลกำลังจะเปิดรับสมัครร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศให้เข้าร่วมโครงการมากที่สุด ทั้งนี้ ปัจจุบันมีร้านค้ารายย่อยที่เข้าร่วมโครงการอยู่เดิมแล้ว 180000 ร้านค้า
จากมาตรการชิมช้อปใช้ที่ลงทะเบียนกับธนาคารกรุงไทยในแอปพลิเคชัน ถุงเงิน ด้าน นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สศค. กล่าวถึงมาตรการ คนละครึ่ง ของรัฐบาลว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะรักษาระดับการบริโภคภายในระยะเวลา 3 เดือน นับจากเดือน ต.ค. ถึง ธ.ค.นี้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายมาตรการนี้มีจำนวน 24 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของประชาชนทั้งประเทศ
เดิมกระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะใช้มาตรการคนละครึ่งกับคนทุกกลุ่ม แต่เนื่องจากประชาชนบางกลุ่มมีข้อจำกัดเรื่องการใช้เทคโนโลยีและรายได้ ดังนั้นจึงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน และกลุ่มบุคคลทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 10 ล้านคน" ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น รัฐบาลจะจ่ายเงินเข้าบัตรฯ ให้คนละ 500 บาท เป็นระยะ 3 เดือน รวมเป็น 1,500 บาท เพื่อให้ผู้ถือบัตรนำเงินไปใช้จ่ายได้ทันที ส่วนบุคคลทั่วไปนั้นจะใช้แนวทางคนละครึ่ง กล่าวคือ
รัฐจะให้วงเงินสมทบไม่เกิน 3,000 บาท สำหรับการใช้จ่ายเท่ากับ หรือมากกว่า 3000 บาท เพื่อให้การใช้จ่ายกระจายไปยังร้านค้ารายย่อย รัฐบาลกำหนดให้สมทบเงินต่อวัน สำหรับการใช้จ่ายไม่เกิน 100 บาท โดยรัฐจะจ่ายเงินสมทบให้แก่ร้านค้าในวันถัดไป อาทิ ยอดใช้จ่ายใน 1 วัน อยู่ที่ 100 บาทต่อวัน ประชาชนจ่ายเพียง 50 บาท และรัฐจะสมทบให้แก่ร้านค้า 50 บาทต่อวันในวันถัดไป หากใช้จ่าย 200 บาท ประชาชนจ่าย 100 บาท รัฐจะสมทบ 100 บาทให้แก่ร้านค้าในวันถัดไป เป็นต้น
ขอบคุณ กระทรวงการคลัง