จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kritsana Khansri ได้โพสต์เรื่องราวคาใจที่ได้ไปคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท แล้วลูกเสียชีวิต ทั้งๆ ที่อายุครรภ์ 9 เดือน ฟังหัวใจลูกเต้นปกติ ลูกแข็งแรง เมื่อปวดท้องจะคลอด พยาบาลไม่ให้เบ่ง ให้กินยาแก้ปวดแล้วฉีดยาให้ง่วง สุดท้ายลูกคลอดออกมาไม่มีลมหายใจ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อนำส่งชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริง

โพสต์ดังกล่าว

ล่าสุดวันที่ 3 ส.ค. ที่ ร.พ.ชัยนาทนเรนทร จ.ชัยนาท พญ.ณัฐภร ประกอบ ผอ.รพ.ชัยนาทนเรนทร แถลงข้อเท็จจริงถึงกรณีดังกล่าว ว่า รพ.ชัยนาทนเรนทร ขอแสดงความเสียใจและขอโทษกับครอบครัว น.ส.กฤษณา ขวัญศรี ขอน้อมรับข้อผิดพลาดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งไม่มีเจตนาให้เกิดขึ้น โดยทีมผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้พูดคุยชี้แจงข้อเท็จจริงกับ น.ส.กฤษณา และสามี แสดงความเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไปรับปรุงระบบการทำงาน ป้องกันเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก เป็นบทเรียนการทำงานของทุกแผนกโรงพยาบาลและโรงพยาบาลอื่นต่อไป

พญ.ณัฐภร กล่าวต่อว่า จากการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงเบื้องต้น ทราบว่า น.ส.กฤษณา เจ็บครรภ์ มานอนโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 27 ก.ค. เวลาประมาณ 07.50 น. และคลอดเวลา 11.49 น. พบว่าทารกเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด แม้ทีมแพทย์จะช่วยกู้ชีพทารกอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตอย่างกะทันหันและไม่คาดคิด โรงพยาบาลได้ส่งตรวจชันสูตรศพเพื่อหาสาตุที่แท้จริง ที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ในวันเดียวกัน และรับกลับมาไว้ที่ห้องรักษาศพของ รพ.ชัยนาทนเรนทร เมื่อวันที่ 28 ก.ค.

จะทราบผลประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งไว้ที่ 28 ก.ค.นั้น มีบุตรของคุณ "ข" เสียชีวิตจากภาวะคลอดก่อนกำหนด ประสงค์ให้โรงพยาบาลอำนวยการความสะดวกในการฌาปนกิจศพทารก โรงพยาบาลได้นัดมารับศพบุตร ในวันที่ 1 ส.ค. เวลาประมาณ 10.30 น. ที่ห้องรักษาศพ เพื่อนำไปฌาปนกิจ และในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ส่งหนังสือที่โรงพยาบาลเวลาประมาณ 11.30 น. เพื่อขอรับศพบุตร น.ส.กฤษณา ไปชันสูตรซ้ำ ที่ รพ.ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้มารับศพ เวลาประมาณ 15.00 น. โรงพยาบาลตรวจสอบจึงพบว่า มีการส่งมอบผิด จึงยับยั้งการส่งมอบศพให้กับเจ้าหน้าที่มูลนิธิ

สำหรับ การตอบข้อถามผู้สื่อข่าว ว่าจะเป็นการทำลายหลักฐานหรือไม่นั้น พญ.ณัฐภร เผยว่า ไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น อาจเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ห้องเก็บศพ ซึ่งอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมสอบสวน และจะมีการลงโทษตามระดับความผิด ส่วนประเด็นที่มีแพทย์-พยาบาลไปร่วมทำพิธีเผาศพทารกนั้น เป็นการดำเนินการตามปกติสำหรับผู้ป่วยที่อนาถา หรือหากมีการร้องขอให้ทางโรงพยาบาลช่วยเหลือก็จะดำเนินการให้ทุกราย

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของทารกอยู่ระหว่างรอผลชันสูตรจาก รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะทราบสาเหตุการเสียชีวิต สำหรับการชดใช้เยียวยาครอบครัวของ น.ส.กฤษณา อยู่ระหว่างติดต่อประสานไปยังครอบครัว ขณะนี้ได้รับคำตอบว่ายังไม่พร้อมจะพูดคุย อาจเนื่องจากอยู่ในความเศร้าโศก