จ่อยเจ้าของเสื้อส้ม เข้าพบตำรวจแล้ว

จ่อยเจ้าของเสื้อส้ม เข้าพบตำรวจแล้ว

เมื่อวันที่ 22 ก.ค.63 เวลา 11.40 น. นายจ่อย ชาวบ้านกกกอก ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเสื้อสีส้ม พร้อมด้วยภรรยา เเละพี่สาว ได้เดินทางเข้าเเจ้งความกับตำรวจ สภ.กกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อยืนยันว่าเสื้อตัวดังกล่าวเป็นของตนจริง เเต่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ พร้อมกันนี้ยังได้ให้ปากคำกับตำรวจเรื่องเสื้อสีส้ม พนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบปากคำ 4 ชั่วโมง 35 นาที โดยหลังจากสอบปากคำเสร็จ ตำรวจได้เก็บดีเอ็นเอ เเละเส้นผมของนายจ่อย เพื่อเทียบเคียงประกอบสำนวนคดี ก่อนจะเดินทางกลับในเวลา 16.15 น.

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายจ่อย หนึ่งในเจ้าของรถไถนาคูโบต้า ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า สำหรับรถไถของตนนั้น เป็นรถไถนาคูโบต้า L47045SP ซื้อมาจากร้านอาร์เอ็มจี จ.สกลนคร และตนได้รับเสื้อแจกจำนวน 1 ตัว ทีมข่าวจึงเอาภาพเสื้อส้มที่ชาวบ้านกลุ่มหาหน่อไม้ไปพบ นายจ่อยก็ยอมรับว่าใช่เสื้อของตนจริง ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปลายปี 62 ตนได้ไปหาหน่อไม้ ที่สวนยางพาราของนายตุง ซึ่งตรงนั้นจะเป็นริมห้วยบุง โดยตนได้ใส่เสื้อส้มตัวดังกล่าวไปหาหน่อไม้ และเกิดระคายเคืองผิวหน่อไม้ จึงได้ถอดเสื้อสีส้ม และพันเสื้อยัดทิ้งไว้ใต้ขอนไม้ ตั้งใจให้น้ำพัดลอยไป แต่น้ำก็ไม่พัดไป ที่ตนต้องไปยัดเสื้อไว้ในขอนไม้ริมห้วยบุง เนื่องจากสวนยางพาราของตนอยู่ติดกับสวนของนางตุง และอีกหนึ่งสาเหตุที่ตนทิ้งเสื้อตัวดังกล่าว เนื่องจากเสื้อตัวดังกล่าวดำและสกปรกแล้ว มีกลิ่นเหม็น ตนก็ซ่อนเสื้อไว้ก่อนน้องชมพู่จะหายตัวไปตั้งหลายเดือน

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่าเสื้อสีส้มตัวดังกล่าวเป็นเสื้อของตน ที่ตนมั่นใจแล้วถึง 90% อีก 10 % ที่จำไม่ได้ คือ ตัวหนังสือที่อยู่ด้านหลัง แต่ตนก็ยืนยันว่าตนไม่ได้ก่อเหตุลักพาตัวน้องชมพู่อย่างแน่นอน ตนไม่ได้กังวลใจแต่อย่างใด เพราะตนมั่นใจว่าตนไม่ได้ทำ ถามว่าตนไปสวนยางของตนที่อยู่ติดกับจุดเจอเสื้อตอนไหน เมื่อเช้านี้ตนก็เข้าไปหาหน่อไม้ที่สวนของตน แต่ไปไม่ถึงจุดเจอเสื้อส้ม ถ้าหากว่าคนร้ายสวมรอยเอาเสื้อของตนไปใช้ก่อเหตุ ตนก็ไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ตอนที่มีข่าวออกมาว่ามีชาวบ้านเจอเสื้อส้ม ตนก็คิดในใจอยู่ว่าเป็นเสื้อของตน แต่ตนก็ไม่ได้บอกใคร

ตั้งใจว่าจะไปบอกตำรวจด้วยตัวเอง และตนก็อาจไปยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นเสื้อของตนจริง แต่จะมาว่าตนอุ้มน้องชมพู่ไปฆ่านั้น ตนไม่ได้ทำแน่นอน พ่อแม่น้องชมพู่ตนก็ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกัน ขนาดตนจะจับน้องชมพู่ น้องชมพู่ยังร้องเลย และตนก็ยืนยันว่าที่ซุกเสื้อไว้ ไม่ใช่เพราะตนหนีคดีอื่น ๆ อีกด้วย ถามว่าทำไมตนไม่ซ่อนเสื้อที่สวนตนเอง ก็เพราะว่าตนเดินออกมาจากสวนของตน เพื่อหาหน่อไม้แล้ว และถามว่าตนจะไปหาตำรวจตอนไหน อยู่ระหว่างปรึกษาครอบครัว และพอเสื้อของตนถูกเอาไปตรวจสอบแบบนี้ ตนก็ยังกลัวว่าตนจะเป็นแพะหรือไม่

ทีมข่าวได้พูดคุยกับพี่สาวของนายจ่อย คือนางนลิน เงินนาม หรือป้าถอน ผู้ที่พามาเเจ้งความ เปิดเผยว่า เมื่อวานหลังจากทราบข่าวว่ามีชาวบ้านพบเสื้อสีส้ม ตอนเเรกตนก็ยังไม่ทราบว่าเป็นเสื้อใคร เเต่มาทราบภายหลังว่าเป็นเสื้อของน้องชาย ก็เสียใจมาก กลัวว่าจะถูกโยงเข้ากับคดีน้องชมพู่

วันนี้จึงชักชวนน้องชายให้มาเเจ้งความ เพื่อเเสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าเราเป็นเจ้าของเสื้อ เเต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีชมพู่ ซึ่งเสื้อดังกล่าวนั้น ภรรยาของนายจ่อยนำไปไว้ที่กระท่อมในสวนยาง เพื่อให้สามีได้ใส่ทำงาน โดยนายจ่อยได้หยิบเสื้อตัวดังกล่าวมาใส่ เเล้วไปหาหน่อไม้ เมื่อปลายปี 62 จากนั้นรู้สึกคัน จึงถอดเสื้อทิ้งไว้ เพราะเสื้อสภาพค่อนข้างเก่าเเล้ว นางนลิน ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนไม่มีความเครียด เพราะเชื่อว่าน้องชายบริสุทธิ์ ซึ่งตนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ดังนั้นจึงขอให้ตำรวจ ให้ความเป็นธรรมกับน้องชายด้วย ส่วนทางครอบครัวก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทีมข่าวลงพื้นที่มายังสวนยางพาราของนายจ่อย เจ้าของเสื้อส้ม ที่ชาวบ้านกลุ่มหาหน่อไม้ บ้านกกกอก ได้ไปเจอเมื่อวันที่ 20 ก.ค.63 ที่ผ่านมานั้น ซึ่งเป็นสวนยางที่อยู่ติดกับห้วยบุงเช่นเดียวกัน

สำหรับกระต๊อบของนายจ่อย เป็นกระต๊อบขนาด 2 คูณ 4 เมตร สูงประมาณ 2.5 เมตร ด้านบนมุงด้วยสังกะสี มีมุงด้วยแผ่นไม้เพียงแค่ 1 ฝั่ง ที่ด้านในกระต๊อบ มีเตียงนอน 1 อัน ที่นอน 2 อัน กระสอบถึงปุ๋ย ผ้าห่ม กล่องเปล่า เลื่อยตัดไม้ ขวดน้ำกรด สวิงช้อนเขียด ถังน้ำ ด้านข้างกระต๊อบ เป็นโครงเหล็กที่ปกคลุมด้วยผ้าใบ และห่างออกมาจากกระต๊อบ ประมาณ 4 เมตร มีแทงก์น้ำอยู่ 1 อัน และบริเวณด้านหน้ากระต๊อบจะมีกระสอบปุ๋ย กระป๋องรองยาง วางเกลื่อนอยู่

ถ้าหากเดินเท้าจากกระต๊อบของนายจ่อย ไปหาจุดที่เจอเสื้อส้ม จะใช้ระยะทางรวม 139 เมตร โดยจะเดินผ่านสวนที่มีสภาพเป็นที่ดินเปล่า อยู่ระหว่างไถปรับหน้าดิน จากนั้นก็เดินตัดเข้าสวนยางพาราของนายสมบัติ คนแรกที่เจอศพชมพู่ จากนั้นก็ตัดเข้าสู่สวนยางของนายตุง ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ที่เจอเสื้อส้ม และเดินเลี้ยวขวาลงริมคลองห้วยบุง ไปในพุ่มกอไผ่ ก็จะเจอกับจุดเจอเสื้อที่อยู่ใต้ขอนไม้ จากการสังเกตบริเวณที่เจอเสื้อส้ม เป็นริมห้วยบุง ทั้งสองฝั่งของริมห้วยจะเต็มไปด้วยต้นไผ่ และห้วยบุงก็ยังอยู่ติดกับสวนยางพาราของนายจ่อยด้วย

ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลกับนายจ่อยเมื่อวาน ก็เล่าว่าตนใช้เส้นทางหาหน่อไม้ เมื่อปลายปี 62 โดยจากริมห้วยบุงที่อยู่ติดกับสวนยางพาราของตน โดยเดินตามริมห้วยมาเรื่อย ๆ กระทั่งมารู้สึกระคายเคือง จากการหาหน่อไม้ และถอดเสื้อซ่อนไว้ใต้ขอนไม้ ทีมข่าวทดสอบจุดลับตาของบ้านนายจ่อย ซึ่งเป็นเจ้าของเสื้อ โดยบ้านนายจ่อยตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน ติดกับร้านค้าของนายแต

โดยสามารถเดินเข้าออกบ้านได้ 2 ทาง คือ หน้าบ้าน กับหลังบ้าน เส้นทางที่ 1 หน้าบ้าน มีความเป็นไปได้ยาก ถึงเป็นไปไม่ได้เลยหากจะมีการเดินออกเส้นทางนี้ เนื่องจากเสี่ยงกับการที่คนจะพบเห็นได้ง่าย เส้นทางที่ 2 หลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับบ้านนางดอน มะลิรส แต่สามีของนางดอนอยู่บ้าน ซึ่งยืนยันกับทีมข่าวว่าไม่เห็นใครใส่เสื้อส้มเดินผ่าน ซึ่งบ้านไม่มีรัวจึงสามารถเดินได้ปกติ และยังผ่านบ้านนางจำลอง แดนกาไสย ซึ่งช่วงหลัง 07.00 น. ของวันที่ 11 พ.ค.63 ซึ่ง 2 คนนี้ไม่อยู่บ้าน จะมีก็บ้านนายแอ๋ม มีการไสไม้อยู่โดยช่างวา และช่างโด่ง ซึ่งหากเดินทางผ่านก็มีโอกาสเห็นได้ชัดเช่นกัน ใช้เวลา 2.03 น. ระยะประมาณ 150 ม.

นายวัด ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมีรถไถนาคูโบต้า L5018 และตนโดยตนได้เสื้อส้มที่แจกกับรถไถมา 2 ตัว ตัวหนึ่งอยู่บ้าน และอีกตัวอยู่ที่นา แต่จะแตกต่างกันตรงข้อความด้านหลัง และเสื้อสีส้มของตนก็ไม่มีตัวไหนที่หายอีกด้วย สำหรับจุดที่ชาวบ้านเจอเสื้อส้มนั้น ตนก็เคยขับรถผ่านเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา และไม่เคยไปที่บริเวณนั้น และตนก็ไม่กังวลใจ ถึงแม้ว่าเสื้อส้มที่ชาวบ้านเจอจะโยงมาถึงตนเอง

ต่อมาทีมข่าว ได้พูดคุยกับนายหลบ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า หลังจากที่เมื่อวานมีมีการตั้งข้อสงสัยว่าเจ้าของเสื้อส้มเป็นบุคคลที่มีรถไถนาคูโบต้า กระทั่งเจอเจ้าของเสื้อส้มตัวจริงแล้วนั้น วันนี้ตนก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น รวมถึงไม่มีความกังวล และตนก็ยังใช้ชีวิตปกติ

ส่วนกรณีที่นายจ่อย ออกมายอมรับว่าเป็นเจ้าของเสื้อส้มนั้น ตนก็รู้สึกเป็นห่วงสภาพจิตใจของนายจ่อย กลัวว่าจะคิดมาก แต่ส่วนตัวแล้วตนเชื่อมั่นว่า นายจ่อย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ สำหรับเสื้อส้มของนายจ่อยที่ไปซ่อนไว้ใต้ขอนไม้ ริมห้วยบุ่งนั้น ตนก็เชื่อตามที่นายจ่อยให้สัมภาษณ์ เนื่องจากสวนยางของนายจ่อย อยู่ใกล้กับจุดเจอเสื้อส้ม ส่วนตัวแล้วก็ไม่เคยไปหาหน่อไม้ แต่เท่าที่ตนทราบมาจากคนที่หาหน่อไม้ ก็จะระคายเคืองจริง ๆ อย่างไรก็ตามตนก็เชื่อมั่นว่า นายจ่อยไม่เกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่อย่างแน่นอน

ทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลกับพ่อแบม เจ้าของรถไถนา โดยพ่อแบมให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับรถไถนาของตนนั้น เป็นรุ่น L4708 ออกมี่ร้านอาร์เอ็มจี ออกตั้งแต่ 11 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นตนได้รับเสื้อที่แจกจำนวน 2 ตัว เป็นเสื้อสีเทา แขนสั้น แถบส้ม และเสื้อแขนยาวสีเทา ส่วนเสื้อที่ชาวบ้านกลุ่มหาหน่อไม้ไปเจอ ตนก็คิดว่าน่าจะเชื่อมโยงกับคดีน้องชมพู่ได้ ตนก็เคยไปไถนาที่สวนยางแถวนั้นประมาณ 1 ปี และเคยขับรถผ่านประมาณ 3 เดือนที่แล้ว

ต่อมาทีมข่าว ได้พูดคุยกับนางย้อม ชาวบ้านกลุ่มหาหน่อไม้ ที่เจอเสื้อส้ม ในวันที่ 20 ก.ค.63 ที่ผ่านมานั้น

โดยนางย้อม ให้สัมภาษณ์ว่า ที่พวกตนไปหาหน่อไม้มากถึง 4 คน เพราะนางแหล่ เมียผู้ใหญ่บ้านได้มาชักชวนพวกตนให้ไปหาหน่อไม้มาประกอบอาหารในวันที่นายสิระ เจนจาคะ เดินทางมาบ้านกกกอก ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่าพวกตนไม่ได้ไปเจอเสื้อส้ม จากการจัดฉาก หรือเรียกกระแสให้เป็นข่าวใหญ่โตแต่อย่างใด แต่ตนไปหาหน่อไม้จริง ๆ และเสื้อตัวดังกล่าวก็มีปลวกขึ้น ซึ้งพวกตนไม่สามารถทำได้แน่นอน กรณีที่นายจ่อย ออกมายอมรับว่าเป็นเจ้าของเสื้อส้ม ตนก็เชื่อการให้สัมภาษณ์ของนายจ่อย เพราะสวนยางพาราของนายจ่อยอยู่บริเวณนั้น และตนก็เชื่อว่าที่นายจ่อย ถอดเสื้อซุกไว้ใต้ขอนไม้ เพราะระคายเคืองจริง ๆ แต่อีกอย่างหนึ่งที่ตนกังวลใจ คือ เกรงว่าคนร้ายจะสวมรอย นำเสื้อนายจ่อยไปก่อเหตุ

หรือเชื่อมโยงกับคดีน้องชมพู่ เพราะถ้านายจ่อยทิ้งเสื้อตั้งแต่ปลายปี 62 ปลวกต้องเกาะเยอะกว่านี้ และจะต้องมีดินโคลนติดมากกว่านี้ ตนกลัวมากว่าคนร้ายจะมาสวมรอยเอาเสื้อนายจ่อยไปใช้ก่อเหตุ แต่ถ้าหากถามตนว่า นายจ่อยจะก่อเหตุกับน้องชมพู่หรือไม่ ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ 100%

เพราะจากการที่ตนดูนิสัยพ่อจ่อย เขาจะเป็นคนที่รักเด็กมาก ๆ ส่วนกรณีวันที่ 11-14 พ.ค.63 ที่ผ่านมา เท่าที่ตนทราบข้อมูลมา ก็ไม่มีชาวบ้านไปค้นหาน้องชมพู่ ถึงจุดที่เจอเสื้อแต่อย่างใด ตนได้ยินข้อมูลจากชาวบ้านมาว่า เขาไปค้นหาถึงแค่แถวหลังบ้านลุงพลเท่านั้น เพราะคิดว่าน้องชมพู่คงเดินไปไม่ลึกขนาดนั้น เพราะจุดดังกล่าวอยู่ไกลจากบ้านน้องชมพู่ ทุกวันนี้ตนก็ยังเชื่อว่าเสื้อของน้องชมพู่ ยังถูกซุกซ่อนอยู่ และที่สำคัญตนก็กลัวว่าเสื้อน้องชมพู่ อาจอยู่กับเสื้อส้มที่ตนเจอ ตนถึงได้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ