ด่วน ตร ยืนยันแล้ว เสื้อส้มซุกใต้ท่อนไม้
โดย ตร.สภ.กกตูม และตร.พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบ ใกล้กันยังพบ เศษผ้าคล้ายเสื้อสีขาว หลังจากทราบเรื่อง นางสาวิตรี และนายอนามัย วงศรีชา พ่อและแม่น้องชมพู่มาดูที่เกิดเหตุ ซึ่งบริเวณนี้ใกล้จุด ร่องน้ำหากฤดูฝนน้ำจะไหลผ่าน แต่ช่วงที่น้องหายคือน้ำแห้ง ไม่รู้ว่าเสื้อนี้มาจากไหน แม่น้องชมพู่บอกว่า เสื้อสีส้มที่พบ เหมือนกับเสื้อของพ่อ
ซึ่งได้แถมมาจากการซื้อรถไถยี่ห้อหนึ่งถ้าใครซื้อรถไถจะมีเสื้อแบบนี้ แต่ของพ่อจะระบุสาขาที่ซื้อ ส่วนเสื้อที่เจอนั้นไม่รู้ว่าเป็นของสาขาใด ซึ่งจากที่ดูคาดว่าอาจจะเป็นของร้านในจังหวัดสกลนคร ซึ่งเสื้อตัวนี้ไม่ใช่ของพ่อแน่นอน ส่วนสภาพเสื้อที่เห็นมีปลวกขึ้นแล้ว น่าจะอยู่ตรงนั้นมานานแล้ว แต่เป็นของใครไม่รู้ ซึ่งสภาพเสื้อที่เห็นก็ตรงกับคำให้การของพยานที่ระบุว่า เห็นชายปริศนาใส่เสื้อสีส้มเดินอยู่แถวบ้านน้องชมพู่ช่วงน้องหายตัวไป แม่ถือว่าเสื้อตัวนี้สำคัญและแม่ก็สนใจ หวังว่าจะมีหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับคดีน้อง
ที่ผ่านมาชาวบ้านไม่ได้ไปหาหลักฐานจุดนั้น และหากจะน้ำในห้วยจะพัดมาติดก็เป็นไปไม่ได้ เพราะช่วงนั้นหน้าแล้งน้ำไม่มี ก็อยากให้ชาวบ้านเจ้าของเสื้อ หากรู้ว่าเป็นเสื้อของตัวเองก็ออกมาแสดงตัว ทางด้านพ่อน้องชมพู่ ระบุว่า เสื้อตัวนี้ตนไม่ได้ใส่นานแล้ว ภาพที่เห็นแชร์ในโซเชียลคือภาพในอดีต
ตอนนี้พ่อใส่แล้วแน่น เลยเก็บไว้และแม่ก็ใส่บ้างบางครั้งใครที่ซื้อรถไถมีกันทุกคน คันละ1ตัว ส่วนลุงพลบอกว่า เรื่องเสื้อสีส้มไม่เคยรู้มาก่อนมารู้จากสื่อ จุดที่พบนั้นไม่แน่ใจชาวบ้านเคยออกมาหาน้องหรือไม่ แต่จุดนี้ติดกับห้วยบุ่ง ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเดินลัดเลาะไปขึ้นภูเหล็กไฟได้ และหากเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ ก็จะถึงถนนใหญ่ ฝั่งขวาจะใกล้กับบ้านตน และฝั่งซ้ายจะไปทางบ้านน้องชมพู่และใกล้กับบ้านตายาย
ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า เสื้อของใครแต่น่าจะเป็นของคนที่มีรถไถ แต่หากจะนำมาทิ้ง ไม่มีชาวบ้านนำเสื้อมาทิ้งแบบนี้ และปกติชาวบ้านหากไม่ใช้เสื้อผ้าแล้ว จะนำไปทำผ้าขี้ริ้วไม่มีใครนำมาทิ้งแบบนี้ สำหรับเสื้อสีส้มที่พบนั้น พบว่า มีการสกีนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ด้านหน้า เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเสื้อของพ่อน้องชมพู่ ด้านหน้าจะสกีนคำว่า ที่หนึ่งในใจเกษตรกร ส่วนด้านหลังสกีนคำว่า คูโบต้า อาร์เอ็มจี และก็มีเบอร์โทรแต่ละสาขา ส่วนเสื้อของพ่อน้องชมพู่ ด้านหน้าสกีนเหมือนกันว่า ที่หนึ่งในใจเกษตรกร แต่ที่ด้านหลังเขียนว่า โคโบต้า ดงหลวง ซึ่งเป็นคนละตัว และทีมข่าวยังไปสอบถามชาวบ้านว่าเสื้อแบบนี้ มีการแถมมากับการซื้อรถไถจริง และไม่ใช่มีแค่สีส้ม ยังมีสีดำแถบส้มด้วย
ล่าสุดทีมข่าวสอบถามกับ พล.ต.ต.อัครพล พิมลศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ยืนยันว่า ประเด็นเสื้อสีส้มนั้นไม่เกี่ยวข้องใดๆกับการเสียชีวิตปริศนาของน้อชมพู่ โดยจากการสอบปากคำเด็กๆที่อ้างว่าเห็นชายเสื้อส้ม นั้นเป็นการจำผิดวัน เห็นแต่หลังจากน้องชมพู่หายไปแล้ว1วัน กรณีเสื้อส้ม จึงไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่ตร.ก็ไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง เมื่อพบเสื้อส้มที่ซุกใต้ท่นไม้ เราก็จะตรวจสอบให้สิ้นข้อสงสัย
มีข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้านกกกอกระบุว่า มีชาวบ้านแจ้งแสดงตัวเป็นเจ้าของเสื้อสีส้มที่เจอใต้ขอนไม้ ถอดทิ้งไว้เมื่อปลายปี2562 หลังจากหาหน่อไม้และร้อน คัน จึงถอดทิ้งไว้ และพร้อมจะเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ขณะที่เมื่อวานนี้ คณะกรรมาธิดารกฎหมาส ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน
นำโดย นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน พร้อมคณะที่สืบสวนคดีนี้ ขึ้นพิสูจน์จุดพบศพน้องชมพู่บนภูเหล็กไฟ ในข้อสันนิษฐานที่ว่าน้องชมพู่อาจเดินหลงป่าขึ้นไปเองได้ โดยนายสิระเผยว่า เส้นทางขึ้นภูอุปสรรคเยอะมาก ไม่ฟันธงน้องมาเองได้หรือไม่ แต่ขอเก็บข้อมูลรอตำรวจพิสูจน์ เข้าใจการทำงานตำรวจต้องรอบคอบ ไม่ได้ตั้งธงจับแพะ ยืนยันหากมีการจับชาวบ้าน จะใช้ตำแหน่งประกันตัวเพราะถือเป็นผู้บริสุทธิ์
ขอบคุณ Ch3ThailandNews