ลุงพล พูดทันทีหลัง อัจฉริยะ บอกน้องชมพู่ถูกทรมาน

ลุงพล พูดทันทีหลัง อัจฉริยะ บอกน้องชมพู่ถูกทรมาน

จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ เหตุเกิดที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 63 กระทั่งไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหา DNA แฝงแต่ผ่านไปเดือนกว่าแล้วก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้ ซึ่งตอนนี้ทางด้านพ่อแม่น้องชมพู่ เริ่มสงสัยคนในครอบครัวอย่างลุงพล

ต่อมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาไลฟ์สดแสดงความคิดเห็น การตายชมพู่ โดยได้วิเคราะห์จากผลการชันสูตรของทีมแพทย์ น้องชมพู่ถูกทรมานอย่างแสนสาหัส บาดแผลที่เกิดขึ้น เกิดก่อนเสียชีวิตไม่นาน โดนลงโทษเป็นรอยแผลตามแผ่นหลัง ลำตัว และแขนขา น้องชมพู่ไม่ได้หิวข้าว จนเป็นลมแล้วเสียชีวิตอย่างแน่นอน

แผลที่เกิดขึ้น เช่นหญ้าคาบาด จะเป็นแผลเปิด บาดแผลที่เห็นจากศพ เป็นเพราะน้องชมพู่ถูกลงโทษ และต้องไปขยายผลว่า ใครเป็นผู้ที่ตีเด็กจนตาย โดยแผลที่เกิดขึ้นที่ก้นที่ขา เป็นรอยที่น้องถูกตีทรมานเด็ก น้องจึงมีอาการช็อกตาย ตาค้างมือเกร็งอย่างทรมาน อาจเพราะความกลัวสุดขีด ส่วนเลือดตกปลายขา น่าจะมาจากการยืนเสียชีวิต หลังจากการช็อกตาย

ล่าสุด นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ กล่าวว่า ตอนที่เจอนั้น น้องชมพู่เหมือนเกรง อาจเกิดจากการชัก ตนไม่ได้มีความรู้มาก เท่าที่คิดหากอาการตาเหลือก ช็อก ตนคิดว่าน้องชมพู่อาจจะมีอาการกลัวช่วงกลางคืน หากถูกปล่อยไว้บนเขา น้องชมพู่อาจจะไม่ได้ถูกทำร้าย แต่เป็นอาการหวาดกลัว หากมีคนทำร้ายชมพู่ กรณีนี้อาจเป็นไปได้ที่อาจจะชักเกรง

ส่วนตอนพบศพตนก็ไม่ได้สังเกตอะไรมาก ตนเห็นแค่ที่เท้ามีอาการคล้ายห้อเลือด มีรอยที่หน้าแข้ง หลังแขน ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่ไม่ได้สังเกตว่ามีรอยถูกตีหรือไม่ ส่วนเรื่องหนอนขึ้น ตนไม่รู้หนอนจะขึ้นตอนไหนอย่างไร แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้กลิ่นศพ ตนคิดไม่ออกว่าหลานสาวตายตอนไหน รู้แค่อากาศร้อนและตนก็อยู่ในอาการเสียใจ ส่วนเรื่องคำพูดน้องสะดิ้งว่าโกหกหรือไม่ ตนคงไม่วิจารณ์

อย่างไรก็ตามขอให้จับตัวคนร้ายที่ทำร้ายน้องชมพู่จนเสียชีวิตให้ได้โดยเร็ว หากน้องชมพู่เสียชีวิตเองก็ต้องยอมต่อหลักฐานที่มี

เรียบเรียง mumkhao

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ