แม่สงสัยลุงไปบ้านวันชมพู่หาย

แม่สงสัยลุงไปบ้านวันชมพู่หาย

เรียกได้ว่ากินเวลาเกือบจะสองเดือนแล้วสำหรับคดีน้องชมพู่ที่ยังคงเป็นปริศนา จากกรณีในวันที่ 11 พ.ค.63 เวลา 08.20 ถึง 09.22 น. ลุงไชย์พลอยู่ที่สวนยาง โดยมีพยาน คือ แม่น้องชมพู่ ภรรยา และนางนลิน ส่วนเวลา 09.00 น. กลับมาถึงบ้าน โดยมีพยาน คือ ภรรยา และในเวลา 09.45 ถึง 10.00 น. ออกจากบ้านไปภูผาแอก ระยะห่างจากบ้าน 2 กม. ใช้วเลา 15 นาที กระทั่งเวลา 10.00 ถึง 10.20 น. ไปรับพระ และนางนลิน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ล่าสุดวันที่ 8 ก.ค.63 นางสาวิตรี ยกตัวอย่างว่า ลงพุลให้สัมภาษณ์ไม่ค่อยตรงกัน อย่างเช่นมีข่าว ๆ หนึ่ง ลุงพลเคยให้สัมภาษณ์ในข่าวว่า วันที่ 11 พ.ค.63 ลุงพลได้เข้ามาเติมลมที่บ้านตน ก่อนจะไปรับพระ แล้วน้องร้องไห้ตาม ลุงพลจึงบอกว่าตอนนี้ติดโควิด 19 ชมพู่ยังไปไม่ได้

จากนั้นลุงพลก็ไปรับพระต่อ และลุงพลยังบอกว่า ถ้าผมเอาน้องไปคงไม่เกิดเรื่อง และหลังจากวันนั้น ประมาณ 2ถึง3 วัน ลุงพลก็เปลี่ยนให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้เข้ามาเติมลม เพราะจำวันผิด

นายไชย์พล วิภา กล่าวว่า ถ้าจำไม่ผิดก่อนหน้า 2-3 วันที่น้องชมพู่จะหายตัวไป เคยไปเติมลมที่ร้านนั้น เพราะใกล้บ้านน้องชมพู่ และมีเครื่องไม้เครื่องมือครบ แต่วันนั้นก็ไม่เข้าไปสัมผัสน้องโดยตรง น้องก็บอกว่าอยากไปกับลุงพล อยากไปเที่วกับลุง ตนก็เลยบอกว่า เดี๋ยวโควิดหายก่อน จะพาไปนะลูก

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทีมข่าวได้พูดคุยกับพระบุญมา เจ้าอาวาสวัดป่าภูผาแอก หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมาได้ให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ทีวี ระบุว่า พลทราบเรื่องน้องชมพู่หายก่อนจะมารับพระ เพราะได้ยินเสียงลุงพลพูดเรื่องดังกล่าว เเต่ต่อมาลุงพล ได้ยืนยันว่าไม่ได้พูดเรื่องน้องชมพู่ที่วัด ซึ่งพระบุญมาอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนนั้น

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

พระอาจารย์บุญมา ยังยืนยันคำเดิม ว่าได้ยินเสียงลุงพลจริง ๆ โดยลุงพลพูดว่า น้องชมพู่หาย ส่งพระเสร็จจะกลับมาตามหา ซึ่งลุงพลพูดขณะไปกราบลาพระรูปหนึ่งในโรงครัว มีชาวบ้าน 2 คน คือ นางดอนกับนางวึ่ง อยู่ในครัวด้วย ส่วนกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา ลุงพลให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ทีวี ว่าให้อาตมาไปทบทวนเรื่องราวใหม่ เพราะสิ่งที่ได้ยินอาจคลาดเคลื่อนมาจากเรื่องอื่น หรืออาตมาอาจจำวันผิด อาตมานอนคิดเเละไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนเเล้ว ยืนยันว่าได้ยินวันที่ 11 พ.ค.63 จริง ไม่ได้มุสา

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ส่วนเวลาที่ลุงพลมาที่วัด หรือเวลาที่ลุงพลพูด อาตมายอมรับตามตรงว่าจำไม่ได้ ส่วนอิริยาบถของลุงพลขณะพูด อาตมาก็จำไม่ได้ เพราะตอนนั้นลุงพลอยู่ในศาลา อาตมามองไม่เห็น ได้ยินเเค่เสียงเท่านั้น เเต่ก็จำได้ว่าเป็นเสียงลุงพล อย่างไรก็ตาม อาตมายังเชื่อมั่นเหมือนเดิม ว่าลุงพลไม่ใช่คนร้าย

ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่ในศาลาโรงครัว วัดป่าภูผาเเอก คือนางดอน มะลิรส กล่าวถึงกรณีที่พระบุญมา ระบุว่า ลุงพลพูดเรื่องน้องชมพู่หายตอนที่เข้าไปรับพระในวัด โดยสถานที่ที่พูดคือในโรงครัวนั้น ตนในฐานะคนที่อยู่ในโรงครัว ณ ช่วงเวลานั้น เเต่จำเวลาไม่ได้ ยืนยันว่าไม่ได้ยิน ซึ่งลุงพลไม่ได้พูดเรื่องน้องชมพู่เลย เพราะตอนนั้นที่วัดยังไม่มีใครทราบ พระบุญมาอาจจะจำผิด หรือเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะปัจจุบันพระบุญมานั้นหลง ๆ ลืม ๆ จำสิ่งต่าง ๆ สับสนกันไปหมด

ทั้งนี้ตนในฐานะผู้ที่คอยอุปัฏฐากวัด เข้าวัดทุกวัน ขอยืนยันว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริง พิสูจน์ได้จากข้อมูลวันที่ 11 พ.ค.63 ที่พระบุญมา ระบุว่า ลุงพลเเละครูบารัตน์ เข้าไปกราบลาพระอีกรูปในศาลา ทั้ง ๆ ที่ความจริง พระรูปที่ลุงพลกับครูบารัตน์เข้าไปกราบลา ก็คือตัวพระบุญมาเอง เพราะเป็นเจ้าอาวาส เเต่พระบุญมาจำไม่ได้ ดังนั้นจึงขอให้ตัดประเด็นพระบุญมาทิ้งไป

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

นายม็อค สามีของนางนลิน กล่าวว่า ตำรวจได้สอบปากคำตนจริง เกี่ยวกับเรื่องที่ตนและเมีย พร้อมกับลุงพลไปส่งพระ ซึ่งตนก็ให้การตามความเป็นจริง และหลังจากส่งพระเสร็จลุงพลก็ไปออกไปช่วยตามหาหลานสาว

ขอบคุณ ทีมข่าวอัมรินทร์ทีวี

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ