ผู้ว่า เชียงใหม่ส่งหนังสือด่วนที่สุด เรื่องการรับบริจาค ของ ฌอน
จากกรณีของ ฌอน บูรณะหิรัญ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยทีเดียว เพราะโดนขุดหลายเรื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นายศรีสุวรรณ เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นาย ฌอน บูรณะหิรัญ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดรับบริจาคเพื่อนำมาช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.2563 จนถึง 1 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยมีผู้ร่วมบริจาคเป็นจำนวนเงิน 875,741.53 บาท แต่กลับนำเงินบริจาคส่วนหนึ่ง มูลค่า 254,516.53 บาท มาใช้ทำสื่อ
เพื่อประชาสัมพันธ์ ว่า เบื้องต้นการรับบริจาคดังกล่าวแม้มีวัตถุประสงค์เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่จะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรเสียก่อน ตามความใน ม.6 ประกอบ ม.8 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487
ซึ่งตามกฎกระทรวงแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กำหนดให้ นายอำเภอ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ม.8 สำหรับในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งต้องตรวจสอบต่อไปว่า ผู้ขออนุญาตเคยต้องโทษเกี่ยวกับทรัพย์ กรรโชก ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะอาญาหรือไม่ หากใครฝ่าฝืนย่อมมีความผิดตาม ม.17 ประกอบ ม.19 ได้หรือหากผู้จัดกิจกรรมปิดบังอำพรางข้อเท็จจริงก็อาจเข้าข่ายความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม ปอ. ม.172 ด้วย
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมการปกครอง เพื่อขอให้ตรวจสอบว่ากรณีการขอรับบริจาคของ นายฌอน บูรณะหิรัญ นั้นได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ดังนี้ 1. กิจกรรมการเรี่ยไรดังกล่าวมีการดำเนินการขออนุญาตจากนายอำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ ตามกฎกระทรวง แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร 2487 แล้วหรือไม่ อย่างไร
2. กิจกรรมการเรี่ยไรดังกล่าวมีการออกใบรับเงินให้กับผู้บริจาคทุกคน และมีต้นขั้วใบรับไว้เป็นหลักฐานตามที่กำหนดไว้ใน ม.13 หรือไม่
3. เงินบริจาคที่ได้มาดังกล่าว มีการนำไปใช้จ่ายในการจัดทำสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์ตนเอง เป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ตาม ม.14 หรือไม่ อย่างไร และหากนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ตามกฎหมายอาญา ม.341 ได้ ที่ระบุว่า
ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอกลวงให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ กิจกรรมการขอรับบริจาคของนายฌอน ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นลงไปแล้ว หากเป็นการดำเนินการที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487
และประมวลกฎหมายอาญา ก็ย่อมที่จะฝ่าฝืน พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 ตามไปด้วย ย่อมถือได้ว่า เป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว กรมการปกครองต้องดำเนินการทางกฎหมายเพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามครรลองของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่อาจมีข้อยกเว้นให้บุคคลใดได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน เพจ หมายจับกับบรรจง ได้โพสต์ข้ภาพเอกสารด่วนที่สุดโดยในเอกสารระบุใจความสำคัญว่า
นาย ฌอน บูรณะหิรัญ มิได้มายื่นขออนุญาต ทำการเรี่ยไร
อย่างไรก็ดีโปรดติดตามตอนต่อไป หากมีความคืบหน้าอย่างไรทีมงานจะรีบนำมาอัพเดททันที
ขอบคุณ หมายจับกับบรรจง
เรียบเรียง มุมข่าว