วันที่ 24 พฤษภาคม รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงลัดดา เหมาะสุวรรณ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การเลื่อนเปิดเทอมนาน เหตุเพราะการแพร่ของ co vid19 ส่งผลให้เด็กยากจนด้อยโอกาสได้รับผลกระทบด้านโภชนาการ เนื่องจากสำหรับน้องๆที่ยากจนด้อยโอกาสนั้น อาหารที่โรงเรียน คือ มื้ออาหารที่ดีที่สุดของเขา มีคุณค่าโภชนาการครบถ้วน นักเรียนบางคนก็ฝากท้องมื้อเช้า บางคนก็ฝากท้องมื้อเย็นร่วมด้วย

บางคนที่ครอบครัวขาดแคลนจริงๆ พอไม่ได้ไปโรงเรียนนาน ก็จะไม่ได้สารอาหารที่ครบถ้วน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กด้อยโอกาส วันแรกของการเปิดเทอม น้ำหนักจะน้อย ส่วนสูงก็ไม่ดี พอปลายเทอม ก็จะน้ำหนักดีขึ้น ปัญหาเด็กเตี้ยเด็กผอมก็จะน้อยลง เพราะเมื่อเขามาโรงเรียน เขาก็จะได้มื้ออาหารที่ดี มีคุณค่าสารอาหารที่ครบถ้วน

จากข้อมูลที่เรามีการสำรวจหลายครั้ง เด็กกลุ่มนี้เปราะบางอยู่แล้ว ในด้านของโภชนาการ ส่วนหนึ่งอยู่ในความเสี่ยง ขณะที่อีกหลายส่วนมีภาวะโภชนาการที่ต่ำกว่าเกณฑ์ เช่น น้ำหนักน้อย มีภาวะเตี้ยมากกว่าเด็กทั่วไป บางคนก็คือขาด พอยิ่งได้อาหารในปริมาณที่ไม่มากพอกับความต้องการของร่างกาย ก็ทำให้ภาวะทุพโภชนาการที่เป็นอยู่ยิ่งเป็นมากขึ้น คนที่ขาดก็จะขาดมากขึ้น คนที่เสี่ยงอยู่ก็จะขาดอย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งมีผลกระทบกับการเจริญเติบโต

รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงลัดดา กล่าวว่า โดยทั่วไปเด็กวัยเรียนแบบนี้ ปีหนึ่งจะโตประมาณ 2 ถึง 3 กิโลกรัม สูงขึ้น 4 ถึง 5 เซนติเมตร พอได้อาหารไม่พอ หรือไม่ได้คุณค่าอาหารที่ครบถ้วน ร่างกายก็จำเป็นต้องใช้สารอาหารได้แค่สำหรับการดำรงชีวิตเท่านั้น แต่การเติบโตจะชะงักงันไป ก็จะไม่สูงขึ้นหรือน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น ตามที่ควรจะเป็น ช่วงนี้เด็กบางคนกินได้แต่ข้าว ไม่ได้พวกเนื้อสัตว์ ไข่ ก็จะทำให้เสี่ยง มีภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็กมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ก็จะกระทบกับการทำงานของสมองและการเรียนรู้ต่อไป

อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ที่ปรึกษาโครงการ สู้วิกฤติให้น้องอิ่ม คนละมือ เพื่อมื้อน้อง กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือกสศ. กล่าวว่า จากสถานการณ์ co vid19 ได้ส่งผลกระทบไปถึงทุกภาคส่วนรวมถึงระบบการศึกษา เช่น สถานการณ์ล่าสุด เด็กนักเรียนยากจนพิเศษกว่า 753997 คน กำลังขาดแคลนอาหาร จากการปิดเทอมที่ยาวนานเท่าที่เคยมีมา โดยเลื่อนไปถึง 46 วัน ซึ่งเด็กวัยเรียนเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต ทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา สมอง

ดังนั้น เราต้องให้อาหารเด็กได้รับสารอาหารที่ครบ 5 หมู่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ หากขาดตัวใดตัวหนึ่งหรือกินไม่พอ ก็อาจมีอาการสมองฝ่อ ร่างกายเตี้ย ผอมแคระแกร็น มีผลการเรียนและการพัฒนาสติปัญญาร่างกายด้อยกว่าเด็กปกติ

อาจารย์สง่า กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุผลนี้ ทาง กสศ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงร่วมมือบรรเทาความเดือดร้อนของเด็กยากจนพิเศษ ด้วยการโอนเงินไปให้โรงเรียนซื้อข้าวสาร อาหารแห้งที่เป็นประโยชน์เป็นถุงยังชีพแจกเด็ก และภายในถุงยังชีพมูลค่า 600 บาท สำหรับเป็นค่าอาหารเบื้องต้น 30 วัน จะประกอบไปด้วย ข้าวสาร 20 กิโลกรัม ไข่ไก่ 36 ฟอง ปลากระป๋อง 10 กระป๋อง นม น้ำมันพืช ที่อย่างน้อยจะช่วยลดความหิวโหย ลดการขาดสารอาหารในช่วงนี้

อาจารย์สง่า กล่าวว่า กสศ. ยังได้ริเริ่มโครงการรณรงค์สู้วิกฤติให้น้องอิ่ม คนละมือ เพื่อมื้อน้องพร้อมเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมสมทบเติมเต็มมื้ออาหารอีก 15 วันที่ยังขาดแคลนให้กับเด็กๆ กลุ่มนี้ เพื่อก้าวผ่านวิกฤติและมีโอกาสกลับมาเรียนอีกครั้งเมื่อเปิดเทอมใหม่มาถึงทุกคนสามารถร่วมบริจาคช่วยเหลือน้องๆ ไปกับโครงการนี้ผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย หรือเว็บไซต์ กสค หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 020795475

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าว mumkhao ขอเป็นกำลังให้ผู้ที่ได้รับผลกรัทบด้วยนะคะ

ขอบคุณ thairath

เรียบเรียง mumkhao