ธนาคารออมสิน เคาะวันโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว วันละ 5หมื่นคน

ธนาคารออมสิน เคาะวันโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว วันละ 5หมื่นคน

หลายคนหมุนเงินไม่ทัน แถมยังชวดเราไม่ทิ้งกัน 5000 จากกรณี ธนาคารออมสินได้เปิดให้บริการสินเชื่อ 2 ประเภท คือ สินเชื่อผู้มีอาชีพอิสระ วงเงินกู้สูงสุด 10000 บาท และ สินเชื่อผู้มีรายได้ประจำ วงเงินกู้สูงสุด 50000 บาท โดยให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน

ล่าสุด นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า การเปิดให้ประชาชนกู้เงินฉุกเฉิน มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อลดความกังวล และลดความแออัดการใช้ธุรกรรมของธนาคารที่สาขาธนาคารออมสินจึงตกลงร่วมกันธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธกส และธนาคารแห่งประเทศไทย ธปทให้เริ่มต้นนัดประชาชนเข้ามาทำสัญญาวันแรก คือ วันที่ 7 พค 2563 จากเดิมที่ระบุว่าภายใน 5 วัน เนื่องจากเห็นว่ายังมีมาตรการแจกเงินเราไม่ทิ้งกัน 5000 บาทอยู่แล้ว

โดยเบื้องต้นธนาคารออมสินจะนัดลูกค้าเข้ามาทำสัญญาแต่ละสาขาไม่เกิน 50 คนต่อวัน หรือประมาณ 50000 คนต่อวันรวม 1000 สาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้จะใช้ระยะเวลาตรวจสอบเครดิตบูโรอีกหนึ่งวัน ดังนั้นคาดว่าเงินลอตแรกจะเริ่มโอนเข้าบัญชีของผู้ยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พค 2563 เป็นต้นไป

แม้จะนัดเข้ามาทำสัญญาก็ไม่ได้หมายความว่าลูกค้าจะได้เงินกู้ทุกราย เนื่องจากลูกค้าจะต้องเซ็นยินยอมให้ตรวจสอบเครดิตบูโร ซึ่งจะใช้ระยเวลาประมาณ 1 วัน โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยมีประวัติเป็นลูกค้าของทางธนาคารออมสินมาก่อน ซึ่งหากใครติดเอ็นพีแอลก็จะกู้เงินดังกล่าวไม่ได้

ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ยืนยันว่า ในส่วนของการนัดทำสัญญาทั้งหมดจะให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน การปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินให้กลุ่มอาชีพอีกสระ และผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบ จะมีมากถึง 2จุด4 ล้านราย ขณะที่ปัจจุบันธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อรายย่อยเพียงปีละ 1 ล้านรายเท่านั้น

ทั้งนี้ ประชาชนที่ยื่นกู้เงินฉุกเฉิน หากผ่านการพิจารณาแล้ว หากไม่มีบัญชีของธนาคารออมสิน จะต้องเปิดบัญชีใหม่ เนื่องจากจะโอนเงินเข้าบัญชีของธนาคารออมสินเท่านั้น เพื่อในอนาคตลูกค้าจะได้นำเงินเข้าบัญชีเพื่อผ่อนชำระได้ทันที ส่วนของประชาชนที่ลงทะเบียนแล้วระบบแจ้งว่าไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ รวมถึงกลุ่มที่อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ที่มีดอกเบี้ยคงค้าง ไม่สามารถขอกู้เงินฉุกเฉินดังกล่าวได้

ขอบคุณ ธนาคารออมสิน

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ