ประชาชน อย่าสับสนกับการพาดหัวข่าว ยืนยันได้เงินครบ 3 เดือน

ประชาชน อย่าสับสนกับการพาดหัวข่าว ยืนยันได้เงินครบ 3 เดือน

จากกรณีที่เป็นประเด็นพูดถึงกันเป็นวงกว้าง เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม ว่า เป็นที่น่ายินดีว่าตัวเลขผู้รายใหม่ทยอยลดลงตามลำดับ หลายวันที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดให้รัฐบาล โดยศูนย์ CO VID พิจารณาตามหลักเกณฑ์สาธารณสุขอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีการผ่อนปรนอะไรได้หรือไม่ แต่ขณะนี้ขอเวลาอีกสักนิดหนึ่งก่อน เพราะต้องระมัดระวัง ยังมีมีความเสี่ยงสูงที่จะมาชุมนุมต่าง ๆ

ทั้งนี้ เรื่องการผ่อนปรนได้ให้หน่วยงานต่างๆ ไปเตรียมการไว้แล้ว ถ้าดีขึ้นจริงจะลดมาตรการได้อย่างไร ถ้ายังไม่ดีขึ้นจะเพิ่มความเข้มงวดได้อย่างไร แต่ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น ยังจำเป็นต้องขอความร่วมมือภาคประชาชนทุกคน ทุกภาคส่วน ผมทราบดีว่าประชาชนเดือดร้อน ท่านร้อนใจผมยิ่งร้อนใจมากกว่าท่าน เพราะผมเป็นรัฐบาลที่ต้องดูท่าน ขอให้เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน จะประเมินอีกครั้งในช่วงสุดท้ายสิ้นเดือน เมย ขณะนี้กำลังหามาตรการที่เหมาะสม หาหนทางที่ดีที่สุด หากมีการผ่อนปรนเหล่านี้ก็ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ทำทีเดียวทั้งหมดจะทำให้เกิดปัญหา

เพราะบางพื้นที่มีการแพร่ระบาดอยู่ ในกทม ปริมณฑล ภาคใต้ ต้องมีการป้องกัน ทุกกิจการ ต้องเตรียมความพร้อมของท่านไว้ด้วย ต้องแสดงให้เห็นว่ามีความพร้อมอย่างไร ถ้าเปิดกิจการแล้วมีมาตรการในการดูแลอย่างไร ใช้เจล ตรวจเข้าออก และปริมาณคนเข้ามาในพื้นที่ในหลาย ๆ กิจการ พล อ ประยุทธ์ กล่าว

รอ ศบค ประเมินต่ออายุ พรก ฉุกเฉิน พลอ ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วน พรก บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่จะครบกำหนด 26 มย นี้ จะอยู่ในการประเมิน ศบค เอามาคิด วิเคราะห์ ชั่งน้ำหนักในหลายๆ ด้าน แม้สถานการณ์ในขณะนี้จะลดลงบ้างในบางจังหวะ บางช่วง

หมายความว่าเราอาจป้องกันการแพร่ระบาดได้ดี แต่หากเราขาดความร่วมมือ หย่อนวินัย หย่อนความเข้มงวดลงไป CO VID ก็จะกลับมาได้อีก หลายประเทศก็เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน พรก ฉุกเฉินนั้นทราบดีว่ามีผลกระทบ มีความเดือดร้อน รับบาลต้องหามาตรการมาทดแทน หรือหมาตรการอื่นๆ ต้องขอให้เข้าใจด้วย

ตั้งคณะกรรมตรวจสอบให้เยียวยาทั่วถึง นายกฯ กล่าวว่า สำหรับเงินช่วยเหลือ ชดเชยรายได้ที่หายไป 5 พันบาทต่อเดือน ตนทราบดีว่ามีความสับสนอลหม่านกันอยู่ พอสมควร เห็นจากการที่ประชาชนเดินทางไปยังกระทรวงการคลัง แต่จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจกันใหม่ ให้เข้าใจตรงกัน

ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม ทั่วถึงและเป็นธรรม เราได้พิจารณาจากฐานข้อมูลแรงงาน 37 ล้านคนในระบบแรงงาน ประกอบด้วย อาชีพอิสระ แรงงานนอกระบบ 9 ล้านคน แรงงานในระบบ 11 ล้านคน เกษตรกร 17 ล้านคน นักศึกษาที่ทำงานหรือไม่ทำงานก็ต้องพิจารณา เพราะกฎหมายก็เป็นกฎหมาย การใช้เงินตรงไหนต้องมีการตรวจสอบทุกอัน ไม่อยากให้รัฐบาลต้องมีข้อผิดพลาด

อย่างไรก็ตาม ตนรับฟังความเดือดร้อนของท่านเสมอทุกวัน ตนเห็นแล้วก็เห็นใจ สงสาร แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำให้ท่าน ตนร้อนใจมากกว่าท่าน นอกจากนี้ มีการคณะกรรมการกำกับดูแล เพื่อติดตาม รวบรวม บูรณาการข้อมูล เกี่ยวกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ รับฟังความคิดเห็น ตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาให้มีความครอบคลุมทั่วถึง จัดทำข้อเสนอแนะกลไกและขั้นตอนการดำเนินการให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือและเยียวยาได้อย่างแท้จริง

รอเงินกู้ ตอนนี้มีจ่ายแค่เดือนเดียว พลอ ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราจำเป็นต้องใช้เงินหลายส่วน ส่วนแรก พรบ ปรับโอนงบประมาณ 2563 ใช้เวลาพอสมควร ต้องเข้าการพิจารณาของ สส และ สวพิจารณา ใช้เวลา มิย ถึงจะได้ใช้เงิน โดยคาดว่าจะไม่เกิน 1 แสนล้านบาท ส่วนที่สองเงินที่จะได้จากการกู้เงินผ่าน พรก กู้เงิน 1 ล้านล้าน

ตรงนี้ยังไม่มีเงินสักบาท ต้องกูเงินออกมาให้เป็นเม็ดเงิน เพื่อจะได้เอามาได้ กราบเรียนว่ายังไม่มีเลย มีแต่ตัวเลข หลายคนเอาตัวเลขมาหารแบ่งเรียบร้อยแล้ว อีกส่วน พรก ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท เป็นเรื่องของการบริหารของระบบการเงินการคลังของ ธปท เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย สับสน เกิดความไม่น่าเชื่อถือ ส่งผลถึงกระตลาดหุ้น ไปกันหมด แล้วยึดโยงธนาคารด้วย ดังนั้น ต้องเข้าใจทั้ง 3 ส่วน อ้างอิง prachachat

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 เมษายน เพจ ลุงตู่ตูน ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ประชาชน อย่าสับสนกับการพาดหัวข่าว ยืนยันได้เงินครบ 3 เดือน

อย่างไรก็ตามต้องรอติดตามกันต่อไป สำหรับ 5 พันบาท นายกยืนยันจ่ายให้ครบสามเดือนแน่นอน

ขอบคุณ prachachat ลุงตู่ตูน

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ