สำหรับสถานการณ์ที่ทั่วโลกต้องรับมืออยู่ในขณะนี้ ก็คงเป็น CO VID เป็นศัตรูที่เรามองไม่เห็น และน่ากลัวมากที่สุดในตอนนี้ และต้องบอกเลยว่าหลายๆประเทศทั่วโลก ในขณะนี้กำลังตื่นตัวมากๆกับแนวทางการป้องกันและรับมือกับการแพร่กระจาย CO VID สายพันธ์ใหม่ ซึ่งหลายๆประเทศในแถบยุโรปก็หันมาศึกษาแนวทางการรับมือของประเทศทางแทบเอเชียกันเป็นอย่างมาก

ประชาชนทุกคนใส่หน้ากากอนามัย

ให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวเอง

หนึ่งในประเทศที่ทั่วโลกให้ความสนใจและจับตามอง ก็คือประเทศไทย เนื่องจากว่าประเทศไทย ถือว่าเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก CO VID เป็นประเทศแรกๆจากจีนเลยก็ว่าได้ แต่ประเทศไทยสามารถปิดกั้นการแพร่กระจายได้เป็นอย่างดี

เริ่มด้วยเมื่อวันที่ 13 มีค 63 BBCไทย ได้รายงานถึง เจเรมี ฮันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลพรรคคอนเซอร์เวทีฟ วิจารณ์รัฐบาลสหราชอาณาจักร ให้ออกมาดูตัวอย่างมาตรการ ในการป้องกันของระบบสาธารณสุขของไทย ไต้หวัน สิงคโปร์ และฮ่องกง โดยได้หยิบยกไทยเป็นตัวอย่าง ถือว่าอยู่ในกลุ่มประเทศแรกที่แพร่กระจายต่อจากจีน แต่สามารถควบคุมการแพร่กระจายได้ดี

ในวันที่ 19 มีค 63 ทางด้าน Berliner Morgenpost สื่อท้องถิ่นของเยอรมนี ได้ระบุว่า รัฐบาลเยอรมนีควรศึกษาเรียนรู้วิธีการรับมือจากประเทศที่ได้รับผลกระทบในช่วงแรกๆ และสามารถควบคุมได้ เช่น ประเทศไทย โดยให้มีมาตรการที่ตื่นตัว ต่อเนื่อง และรัดกุม

โดยบทความของนาย Gandzior ยังได้ระบุอีกด้วยว่า กรุงเทพฯ ในขณะนี้แตกต่างจากกรุงเบอร์ลิน เป็นอย่างมาก เพราะ เกือบทุกคนในกรุงเทพฯ จะใส่หน้ากากอนามัย รวมถึงมีเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือตั้งวางไว้เกือบทุกที่ในตึกใหญ่ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ชาวเยอรมนีอยากเห็นภายในประเทศ

สามหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน

นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่ต่างชาติมองว่าเราจัดการได้ อย่างไรก็ดีการที่จะควบคุม CO VID ได้อยู่ที่ความร่วมมือของคนไทยทุกคนด้วย

เรียบเรียง มุมข่าว