รมว ศึกษาฯเซ็นแล้ว เลื่อนวันเปิดเทอมใหม่ พ่วงไม่ปิดเทอม ตค 63 กับ เมย 64

รมว ศึกษาฯเซ็นแล้ว เลื่อนวันเปิดเทอมใหม่ พ่วงไม่ปิดเทอม ตค 63 กับ เมย 64

สืบเนื่องจาก คณะรัฐมนตรีรับทราบการปรับการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 โดยให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 จาก 16 พค 63 เป็น 1 กค 63 ตามที่ ศธ เสนอ โดย ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ศธ

เสนอการปรับการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 โดยให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 16 พฤษภาคม พศ 2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม พศ 2563 ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการจะปรับวิธีการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่กำหนดไว้ในแต่ละระดับการศึกษา ของปีการศึกษา 2563 โดยกระทรวงศึกษาธิการจะได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับศูนย์บริหารสถานการณ์การ covid-19 ศบค ต่อไป

ล่าสุด รมว ศึกษาธิการลงนามประกาศให้สถานศึกษาทุกแห่งในกำกับเปิดเรียน 1 กค 63 ส่วน รร นานาชาติให้พิจารณาเปิดเรียนได้ทันทีตามความเหมาะสม แต่ต้องกำหนดรูปแบบ วิธีการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับข้อกำหนดที่ออกตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของแต่ละพื้นที่ที่โรงเรียนตั้งอยู่

โดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 9 เมย 2563 เรื่อง การเปิดเรียนของสถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้สถานศึกษาทุกแห่งของรัฐและเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งอยู่ในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเรียนในวันที่ 1 กค 2563 ให้สถานศึกษาจัดให้มีการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสืบ

เนื่องจากการระบาดของcovid-19 ด้วย ทั้งนี้ โรงเรียนเอกชนประเภทนานาชาติ ซึ่งมีกำหนดวันเปิดและปิดภาคเรียนไม่ตรงกับโรงเรียนในระบบ ให้โรงเรียนพิจารณาเปิดเรียนได้ทันทีตามความเหมาะสม แต่ต้องกำหนดรูปแบบและวิธีการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับข้อกำหนดที่ออกตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของแต่ละพื้นที่ที่โรงเรียนตั้งอยู่

ขณะเดียวกัน รมว ศึกษาธิการ ยังระบุด้วยว่า การเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 16 พ.ค. 2563 เป็นวันที่ 1 กค 2563 ดังกล่าว ก็เพื่อความปลอดภัย ในแง่ของการป้องกันการแพร่ covid-19 ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้เรียน ครู ผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อม ในการเรียนการสอนออนไลน์ และต้องการกำหนดวันเปิดเรียนที่แน่นอน ไม่ว่าจะมีวัคซีนหรือไม่มีวัคซีนป้องกัน covid-19 ก็ตาม แต่หากมีวัคซีนป้องกันได้ ก็จะเปิดเรียนในห้องเรียนตามปกติ

ประเด็นสำคัญก็คือ ในการจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2563 จะไม่มีการปิดภาคเรียนที่ 1 ในเดือนตุลาคม 2563 และเดือนเมษายน 2564 เนื่องจากการเลื่อนเปิดภาคเรียนดังกล่าว ได้ทำให้ช่วงเวลาล่าช้าไปกว่า 2 เดือนแล้ว จึงมีความจำเป็นจะต้องมีการจัดการเรียนการสอนให้ครบตามหลักสูตร

ส่วนการรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการรับสมัครผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2563 โดยทางกระทรวงศึกษาธิการ จะมีการตรวจสอบรายชื่ออีกครั้งเพื่อป้องกันการซ้ำซ้อน และเมื่อมีความพร้อมก็จะเปิดสอบพร้อมกันทั่วประเทศ ยกเว้นหากในช่วงเวลาดังกล่าว ยังคงมีการแพร่ covid-19ก็จะหาวิธีจัดสอบแบบออนไลน์ ซึ่งการจัดสอบออนไลน์ยอมรับว่า เป็นวิธีการที่ยาก เพราะยังไม่มีสูตรสำเร็จ

แต่ช่วงเวลานี้จะเป็นการเตรียมความความพร้อม ด้านทักษะการสอนออนไลน์ และความเข้าใจให้กับครู โดยจะแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา โดยในช่วงเดือน พคนี้ ศธ.จะเริ่มปล่อยหลักสูตรการเรียนการสอนออนไลน์ผ่าน TV หลายช่อง เพื่อทดลองระบบการรับส่งสัญญาณในพื้นที่ต่างๆ เพื่อหาจุดบกพร่องและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป

กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมที่จะจัดหาอุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอนออนไลน์ที่มีความเหมาะสม อาจจะเป็น Tablet หรือ Laptop ที่มีความแตกต่างจากที่เคยแจกในครั้งที่แล้ว โดยสามารถใช้เรียนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำเรื่องการจัดหาอุปกรณ์ที่มีความเหมาะสมกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไป โดยกระทรวงศึกษาธิการ ต้องบริหารจัดการงบประมาณภายในกระทรวงเอง ไม่ของบประมาณเพิ่ม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ