นักวิจัยฮ่องกงพบว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 สามารถติดอยู่บนหน้ากากอนามัยได้นานถึง 7 วัน
เมื่อวันที่ 6 เมษายน เพจ Workpoint News ได้โพสต์ข้อความระบุว่า นักวิจัยจากฮ่องกงพบว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 สามารถติดอยู่บนหน้ากากอนามัยได้นานถึง 7 วัน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการค้นพบภายในห้องทดลอง ซึ่งอาจไม่สะท้อนการติดเชื้อในโลกจริงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กระนั้นงานวิจัยก็เน้นย้ำให้เห็นความสำคัญของการไม่สัมผัสหน้ากากอนามัยอีกหลังสวมใส่
ภาพจาก Workpoint News
เมื่อวันที่ 6 เมษายน สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า กลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง (University of Hong Kong) ได้ทำการวิจัยเพื่อทดสอบว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งทำให้เกิดโรค covid-19 นั้น จะสามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวต่างๆ ได้นานแค่ไหนในอุณหภูมิห้อง งานวิจัยพบว่าสำหรับบนกระดาษและกระดาษทิชชู่นั้นไวรัสสามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่เกิน 3 ชั่วโมงเท่านั้น ในขณะที่หากเป็นแผ่นไม้หรือผืนผ้า ไวรัสจะหายไปหมดภายใน 2 วัน
ในขณะที่ถ้าเป็นบนแก้วและธนบัตร ไวรัสจะหายไปหมดภายใน 4 วัน ส่วนบนพื้นผิวสแตนเลสและพลาสติก ไวรัสสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 4-7 วัน แต่ข้อค้นพบที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ นักวิจัยยังคงพบไวรัสที่ด้านนอกของหน้ากากอนามัยอยู่ หลังจากเวลาผ่านไปแล้วถึง 7 วัน ทั้งนี้ นักวิจัยได้เน้นย้ำด้วยว่า นี่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการต้องไม่ให้มือสัมผัสโดนพื้นผิวของหน้ากากอนามัยอีกหลังสวมใส่ เนื่องจากเชื้ออาจมาติดที่มือ และทำให้ร่างกายติดโรคได้ในที่สุดหากนำมือมาสัมผัสใบหน้าหรือดวงตา
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงได้เตือนไว้ด้วยว่า ผลการทดลองดังกล่าวนี้ไม่จำเป็นต้องสะท้อนความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสในโลกความเป็นจริง เนื่องจากในการทดลองนี้ ตัวไวรัสถูกตรวจดูด้วยอุปกรณ์ในห้องแล็บ แต่ในโลกความเป็นจริงการติดเชื้อมักส่งต่อผ่านทางมือและนิ้ว ดังนั้นการทดลองนี้จึงไม่ได้แปลว่าเชื้อยังสามารถติดต่อได้อยู่แม้ผ่านไป 7 วัน เพียงแต่บอกว่ามีไวรัสบางส่วนยังคงมีชีวิตอยู่บนหน้ากากอนามัยในห้องทดลองเมื่อผ่านไปแล้ว 7 วันเท่านั้น
ทั้งนี้ นักวิจัยยังได้ระบุด้วยว่า ในทุกพื้นผิว จำนวนไวรัสนั้นลดลงอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป อีกทั้งไวรัสตัวนี้ก็อ่อนแอมากเมื่อเจอกับอุปกรณ์ทำความสะอาดในบ้านอย่างสบู่และผงซักฟอก
โพสต์ดังกล่าว
สำหรับแมสที่เราใส่แล้วเวลาทิ้งให้ใส่ถุงให้เรียบร้อยนะครับ เพื่อเป็นการลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ขอบคุณ Workpoint News
เรียบเรียง มุมข่าว
