เงินเข้าบัตรคนจน

เงินเข้าบัตรคนจน

สำหรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนมีนาคม ยังสามารถรูดซื้อสินค้าได้ตามปกติกนะคะ สำหรับวันที่ 1 มีนาคม สามารถซื้อสินค้าได้ที่ร้านค้าร่วมโครงการ หรือร้านธงฟ้าไกล้บ้านท่าน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันที่ 1 มีนาคม 2563 รูดซื้อของได้ตามปกติ 2ถึง300 บาท เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 50ถึง100 บาท วันนี้สามารถกดได้แล้วนะคะ สามารถเช็คยอดเงินได้ที่ กดเบอร์ 021092345

ฟังเสียง แล้วกด 3

ฟังเสียง แล้วกด 1

ฟังเสียง จากนั้นกด หมายเลขหน้าบัตรสวัสดิการ 16 หลัก ตามด้วยเครื่องหมายสี่เหลี่ยม หรือ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ตามด้วยเครื่องหมายสี่เหลี่ยม

ฟังเสียง แล้วกดหมายเลขรหัสประจำตัว 6 หลัก ตามด้วยเครื่องหมาย สี่เหลี่ยม

ฟังเสียงยอดเงินที่สามารถกดได้ เป็นอันเสร็จสิ้น

ภาพจาก Kapook

วันที่ 15 มีนาคม 2563 เงินคืนภาษี VAT 5 เปอร์เซนต์ สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เติมเงินเข้าบัตร แล้วใช้เงินจากบัตรรูดซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าเอกชนอื่น ๆ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านเครื่อง EDC ที่มีการเชื่อมต่อระบบ POS ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ถึง 30 กันยายน 2563 รัฐจะคืนภาษี VAT 5 เปอร์เซนต์ ให้ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถนำบัตรคนจนไปกดเป็นเงินสดออกมาใช้ หรือรูดซื้อของตามร้านธงฟ้าฯ และร้านค้าอื่น ๆ ที่ร่วมโครงการได้ ผู้มีสิทธิ์รับเงิน เป็นผู้ที่เติมเงินเข้าบัตรคนจน แล้วใช้บัตรจ่ายเงินซื้อของในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จึงจะได้รับเงินภาษี VAT 5 เปอร์เซนต์ คืนเข้าบัตร ตามยอดใช้จ่าย วันที่

18 มีนาคม 2563

ค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

ค่าไฟ 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

สำหรับผู้ที่รอคอยการลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ ทำโครงการบัตรคนจนรอบ 2 พร้อมเปิดลงทะเบียน 23 มีนาคม ถึง 26 เมษายน นี้ ยันคำนวณรายได้รายครัวเรือน ส่วนสัปดาห์ถัดไป ดัน ชิมช้อปใช้ ช่วยชาติ กระตุ้นใช้จ่ายในประเทศ ก่อนให้ลงทะเบียน 1 เมษายนถึง30 มิถุนายน คาดใช้งบ 35000 ล้านบาท คลังเตรียมเสนอครม 3 มีค ใช้งบ 8500 ล้านบาท ทำโครงการบัตรคนจนรอบ 2 พร้อมเปิดลงทะเบียน 23 มีนาคม ถึง 26 เมษายน นี้ ยันคำนวณรา/ยได้รายครัวเรือน ส่วนสัปดาห์ถัดไป ดัน ชิมช้อปใช้ ช่วยชาติ กระตุ้นใช้จ่ายในประเทศ ก่อนให้ลงทะเบียน 1 เมษายนถึง30 มิถุนายน คาดใช้งบ 35000 ล้านบาท รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังระบุว่า กระทรวงการคลังจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ครม)

วันที่ 3 มีนาคม พิจารณาโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2563 หรือลงทะเบียนบัตรสวัสดิการรอบ 2 ที่จะเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนระหว่างวันที่ 23 มีนาคม-26 เมษายน 2563 โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการสำรวจผู้มีรายได้น้อยที่เป็นข้อมูลปัจจุบันให้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่กำหนดใหม่ เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการให้ผู้มีรายได้น้อยตัวจริงได้รับบัตรมากที่สุด โดยคาดว่าจะใช้เม็ดเงินประมาณ 8500 ล้านบาท ใช้เม็ดเงินจากงบกลาง ในรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินปี 2563 มาดำเนินการ

ทั้งนี้การลงทะเบียนเพื่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบนี้ จะมีการตรวจสอบรายได้เป็นรายครัวเรือน เพื่อแก้ปัญหาผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่มีครอบครัวดูแล ขณะเดียวกันจะมีการทบทวนข้อมูลของผู้ถือบัตรเพื่อให้เป็นปัจจุบันมากขึ้นและกระทรวงการคลังสามารถตัดสิทธิและเพิ่มสิทธิผู้ถือบัตรได้ตลอดเวลา ส่วนสวัสดิการต่างๆ ของผู้ถือบัตรจะยังคงใช้สวัสดิการเดิมที่มีในปัจจุบัน แต่จะกำหนดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายและความจำเป็นของผู้มีรายได้น้อยแต่ละบุคคลมากขึ้น เปิดลงทะเบียนคนจนรอบ2 นอกจากนั้น ในการประชุมครม ครั้งต่อไป วันที่ 10 มีนาคม กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการชิมช้อปใช้ ช่วยชาติ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวในประเทศ

โดยจะเปิดกว้างให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2563 ซึ่งคาดว่าจะใช้เม็ดเงินในการดำเนินการ 35000 ล้านบาท โดยจะใช้งบกลางในการดำเนินการเช่นกัน รายงานข่าวระบุว่า ในเดือนเมษายน กระทรวงการคลังยังจะเสนอครม พิจารณา โครงการประชารัฐสร้างไทย เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้กองทุนหมู่บ้านระดับ A B C หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท โดยธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธกส และธนาคารออมสิน วงเงิน 71742 ล้านบาท ซึ่งรัฐจะชดเชยเงินตาม พรบ วินัยการเงินการคลังต่อไป รวมถึงพิจารณาการกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ตามพระราชบัญญัติ พรบ หนี้สาธารณะ เพื่อลงทุนในระบบถนน นํ้าและการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ วงเงิน 1 แสนล้านบาท

ขอบคุณ ฐานเศรษฐกิจ

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ