ลุงน้อยเก็บเงินทั้งชีวิตเรียนป ตรี ขอปิดรับบริจาคแล้ว

ลุงน้อยเก็บเงินทั้งชีวิตเรียนป ตรี ขอปิดรับบริจาคแล้ว

จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการส่งต่อภาพเรื่องราวของคุณลุงท่านหนึ่ง อายุ 56 ปีแล้ว แต่ยังเก็บเงินส่งตัวเองเรียน เป็นนักศึกษาภาคเสาร์ อาทิตย์ สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เทอม 2 แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียนจึงเดินทางมาพบอาจารย์ที่ปรึกษาและแจ้งอาจารย์ว่าจะขอลาออกเนื่องจากไม่มีค่าเทอมแล้ว เนื่องจากเงินสะสมเก็บหอมรอมริบขณะไปทำงานมาเป็นค่าเทอมตั้งแต่ปีแรกจนถึงวันนี้ไม่มีเหลืออีกแล้ว

ต่อมา บริเวณที่ดินด้านหลังโรงเรียนวัดโคกสลุด หมู่ 2 บ้านโคกสลุด ต บ้านไร่ อ บางกระทุ่ม จ พิษณุโลก ซึ่งเป็นที่ดินเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา ปลูกสร้างลักษณะเป็นเพิงพักก่อด้วยอิฐบล็อกสูงกว่า 1 เมตร มุงด้วยสังกะสี ไม่มีฝาบ้าน มีเพียงแคร่ไม้และมุ้งใช้สำหรับนอน ไม่คุ้มแดดคุ้มฝน ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้า ส่วนห้องน้ำก็ใช้งานไม่ได้ ไม่มีเลขที่แต่อย่างใด

โดยลุงน้อย เปิดเผยเรื่องราวตัวเอง ว่าเคยไปทำงานรับจ้างอยู่ที่กรุงเทพฯนาน 10 ปี จนมีเงินเก็บ 7 หมื่นบาท จึงตัดสินใจกับมาอยู่ที่บ้านเกิด ส่วนพ่อกับแม่ไม่อยู่นานแล้ว ไม่มีครอบครัวอยู่ตัวคนเดียว และมาหาซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้าน 3 หมื่น ส่วนเงินที่เหลือตั้งใจเอาไว้ว่าจะเก็บไว้เรียนต่อปริญญาตรี เพราะก่อนหน้านี้เคยไปเรียนกศน จนจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 จึงไปสมัครเรียนต่อปริญญาตรีที่มหาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

เลือกเรียนสาขาวิชาภาษาไทย เพราะมีความตั้งใจแต่เด็กว่าอยากจะเป็นคุณครูสอนหนังสือ ถึงแม้อายุจะล่วงมาถึงวัยกลางคนแล้ว ก็ไม่ได้ล้มเลิกความตั้งใจอันแน่วแน่ จะต้องเรียนจบคว้าใบปริญญามาให้ได้ ไม่มีใครแก่เกินเรียน แต่ระยะหลังลุงหารายได้จากอาชีพรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้านได้น้อย ต้องนำเงินเก็บออกมาใช้จ่ายบ้างจนเงินไม่พอที่จะจ่ายค่าเทอมในชั้นเรียนปีที่ 2 เทอม 2 เหลือเงินติดบัญชีเพียง 20 บาทเท่านั้น และไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร ญาติพี่น้องก็ไม่มี

ก่อนจะตัดสินใจเดินทางจากบ้านไปแจ้งกับอาจารย์ผู้สอนว่าจะขอลาออก หลังจากพูดคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว อาจารย์เห็นว่าลุงเรียนมาถึงขั้นนี้แล้วไม่อยากให้เสียโอกาส อยากให้เรียนไปจนจบชั้นปีที่ 4 จะขอทุนกยศ จากมหาวิทยาลัยก็ไม่เข้าเงื่อนไขเนื่องจากอายุเกิน ส่วนทุนของมหาวิทยาลัยจะต้องขอพิจารณาปีหน้า อาจารย์จึงตัดสินใจนำเรื่องราวไปโพสต์ผ่านสื่อโซเชียล กระทั่งมีกลุ่มนักศึกษาและผู้ใจบุญร่วมกันบริจาคเงินสบทบทุนการศึกษาเข้าบัญชีจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเรียนจนจบหลักสูตรจึงขอปิดรับบริจาค ถ้าหากเงินที่ได้รับบริจาคมาเพียงพอเหลืออยู่ก็จะนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับรุ่นน้องคนอื่นๆ

อาจารย์ปฐมพงษ์ สุขเล็ก อาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้น เล่าว่า ที่ผ่านมาเรื่องค่าเล่าเรียนไม่เคยมีปัญหา เพราะลุงน้อยมีเงินเก็บจากการทำงานที่สะสมไว้ กระทั่งเข้าสู่ชั้นปีที่ 2 เทอม 2 การเงินลุงน้อยเริ่มมีปัญหาไม่สามารถหามาจ่ายค่าเทอมได้ทันเวลา ด้วยความกังวลและหาทางออกไมได้ จึงเดินทางมาพบกับอาจารย์เพื่อขอลาออก เพื่อนร่วมห้องเกิดความสงสารจึงแอบติดตามไปที่บ้าน ทำให้พบกับภาพน่าสงสาร เมื่อเห็นภาพบ้านของลุงน้อยเป็นเพียงเพิงพักเล็กๆ ในสวนต้นกล้วย ไม่มีฝาบ้าน มุงหลังคาสังกะสี ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้าใช้ เวลาจะทำการบ้านตอนกลางคืนต้องจุดเทียนเพื่อให้แสงสว่าง หรือเวลาจะเข้าห้องน้ำต้องไปขออาศัยเพื่อนบ้าน หรือวัดใกล้เคียง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ