ผัวตามง้อเมียไม่สำเร็จ ลั่นไกดับคาร้านลาบ

ผัวตามง้อเมียไม่สำเร็จ ลั่นไกดับคาร้านลาบ

วันที่ 21 เมษายน ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ลูกจ้างร้านลาบแห่งหนึ่ง ใน จังหวัดน่าน

โดยผู้ก่อเหตุ คือนายสุรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี สามีผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

ขณะเดียวกัน ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพ เมื่อเวลา 10.07 น. วันเดียวกัน นายสุรศักดิ์ ขี่จักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้าน หลังหนึ่งมุ่งหน้าไปที่ร้าน ภรรยาทำงานอยู่ และ

ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่ 2 จับภาพเมื่อเวลา 10.16 น. บริเวณหน้าร้านลาบที่เกิดเหตุ นายสุรศักดิ์ได้มาตามให้ น.ส.เอ กลับไปอยู่ด้วยกัน แต่ภรรยา ตอบว่า ไม่กลับ ไม่ยอมโดนกระทำอีก ก่อนนายสุรศักดิ์จะชักปืนยิง น.ส.เอ จนล้มลงแล้วหลบหนีไป และภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านหลังเดิม จับภาพ เมื่อเวลา 10.17 น. นายสุรศักดิ์ได้ขี่รถหลบหนี

หลังก่อเหตุ นายสุรศักดิ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ขอเวลาอยู่เงียบๆ ก่อน ที่ทำไปเพราะเรื่องหนี้สิน และกล่าวหาว่า ภรรยาทิ้งไป เพราะไปเป็นภรรยาน้อยเจ้าของร้านลาบ

ด้าน นางมี (นามสมมติ) แม่ของ น.ส.เอ เปิดใจว่า นายสุรศักดิ์กับลูกสาวแต่งงานอยู่กินกันมา มีลูกสาว 2 คน คนโตเรียนอยู่ ม.3 คนเล็กเรียนอยู่ ป.3 ทั้งคู่ทะเลาะกันประจำ แต่หากวันไหนนายสุรศักดิ์เมาเหล้า จะซ้อมทำร้าย น.ส.เอ เป็นประจำ เท่าที่จำได้เกินร้อยครั้งแล้ว จนครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เห็นสภาพลูกที่ถูกทำร้ายร่างกายแล้วทนไม่ไหว จึงให้ น.ส.เอ แยกกันอยู่ ตนเป็นแม่ ยังไม่เคยตีลูกขนาดนี้

นางมี กล่าวว่า คิดว่านายสุรศักดิ์ไม่พอใจ ที่ตนให้แยกทางกัน โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 4 วัน นายสุรศักดิ์ส่งข้อความหาพี่สาวของ น.ส.เอ เป็นภาพอาวุธปืนพร้อมกระสุน บอกให้กลับไปอยู่ด้วยกัน หากไม่กลับจะฆ่าให้ตายยกครัว ทั้งแม่และลูกก่อนจะมาเกิดเหตุในวันนี้

ในเฟสบุ๊กของ น.ส.เอ โพสต์ภาพเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 พร้อมข้อความ ถูกนายสุรศักดิ์ทำร้ายร่างกาย โดยมีบาดแผลหลายแห่ง

ด้าน พ.ต.อ.สุริยา ขำโต ผกก.สภ.ท่าวังผา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งเหตุสามีใช้อาวุธปืนยิงภรรยาเสียชีวิต แล้วหลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดแล้ว โดยตอนแรกได้ติดต่อผู้ก่อเหตุแล้ว ผู้ก่อเหตุแจ้งว่าจะมามอบตัวตอนบ่ายโมง แต่ยังไม่มามอบตัว

โดยทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการติดตาม เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน ยังคงใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก จากการสอบถามพยานแวดล้อมมูลเหตุและแรงจูงใจเกิดจากความหึงหวง อย่างไรก็ตามยังอยากให้คนร้ายเข้ามอบตัว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ