
ระทึก! ชายวัย 59 ปี ถูกฟ้าผ่ากลางทุ่งนา รอดปาฏิหาริย์
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ “Sompong Patsri” ได้โพสต์รูปภาพลงในเพจข่าวกุดจับออนไลน์ อีสานอินดี้ เป็นรูปภาพขณะเจ้าหน้าที่รถกู้ชีพ ทต.ปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลชายวัย 59 ปี ชาวบ้านโนนสูง ม.10 ต.ปะโค ส่งโรงพยาบาลกุดจับ หลังถูกฝ้าผ่าหมดสติอยู่เถียงนาด้านทิศใต้บ้านโนนสูง ขณะกำลังนำวัวเข้ามาหลบฝน รอดตายราวปาฏิหาริย์ทั้งคนและวัวที่เลี้ยงไว้ จำนวน 10 ตัว พร้อมกับระระบุข้อความว่า “เหตุฝ้าผ่าบ้านโนนสูง ต.ปะโค ชาย 1 ราย อายุ 59 ปี มีอาการเท้าชา กู้ชีพปะโค นำส่ง รพ.กุดจับ ข่าวจากกู้ชีพปะโค #ส่งเสริมอำเภอกุดจับ เหตุเกิดเวลา 16.30 น. วันที่ 19 เมษายน 2568
ล่าสุดวันที่ 21 เม.ย. 68 มีรายงานว่า คนถูกฝ้าผ่า มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ และแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาลแล้ว หลังนอนพักรักษาตัวและดูอาการครบ 24 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ทต.ปะโค ที่เข้าไปให้การช่วยหลือคนถูกฟ้าฝ่า ประกอบด้วย นายธีระ สังฆ์ทอง อายุ 46 ปี นายชัยวัฒน์ นาไชย อายุ 32 ปี และนายกิตติธัช เศวตวงศ์ อายุ 20 ปี ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุ พบเป็นเถียงนาทำด้ายไม้ยกพื้นสูง ด้านหลังใช้เป็นที่ให้วัวหลบฝน ซึ่งมีร่องรอยการจุดธูปเทียน แก้วน้ำ พาคาวหวาน ยาเส้น หรือเครื่องเซ่นไหว้เจ้าที่ ผีนา หรือผีปู่ย่าตายาย วางอยู่บนใบตองสด ที่ญาติของคนถูกฟ้าผ่านำมาเซ่นไหว้ เพื่อขอบคุณและขอขมา หลังผู้ถูกฟ้าผ่าออกมาจากโรงพยาบาล เพราะมีความเชื่อว่าได้ช่วยเหลือผู้ถูกฟ้าผ่าและวัว 10 ตัว รอดตายราวปาฏิหาริย์
สำหรับคนที่ถูกฟ้าผ่า ทราบชื่อ นายวิลัย อายุ 59 ปี ชาวบ้านโนนสูง ต.ปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี แต่วันนี้ไม่ได้นำวัวออกมาเลี้ยงที่ทุ่งนาที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่นาของเครือญาติ จากการตรวจสอบต้นสะเดาข้างเถียงนา พบร่องรอยฝ้าผ่าจนกิ่งต้นสะเดาฉีกขาด และมีรอยไหม้ดำ
นายชัยวัฒน์ บอกว่า ขณะพวกตนทั้ง 3 คน เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่คอยช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากญาตินายวิลัย ให้มาตรวจสอบช่วยเหลือหลังโดนฟ้าผ่า จึงรุดออกมาที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บยังมีสติ และให้การได้ หลังหมดสติชั่วคราว จากแรงกระแทกของฟ้าผ่าจนล้มทั้งยืน พอมาถึงญาติได้นำตัวขึ้นมานอนบนเถียงนา โดยนายวิลัยบอกตามความเชื่อว่า ที่รอดมาได้เพราะมีขวดเหล้าขาวอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าขวา ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถวิ่งขึ้นบนร่างกายถึงหัวใจ เพราะไฟฟ้าขึ้นมาได้เพียงครึ่งตัว ทำให้ขาทั้งสองข้างชาและไม่รู้สึก และอีกอย่างผู้บาดเจ็บเชื่อว่ามีเจ้าที่เจ้าทาง ผีไร่ผีนา ผีปู่ย่าตายายช่วยจนรอด ซึ่งเป็นความเชื่อของนายวิลัย
พอนำส่งโรงพยาบาล หมอได้บอกการเต้นของหัวใจผิดปกติ จึงให้นอนที่โรงพยาบาลกุดจับ 1 คืน ตอนนี้ผู้ป่วยได้ออกจากทางโรงพยาบาลแล้วตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 20 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้นำวัวทั้งหมดไปเลี้ยงที่คอกในที่นาของตัวเอง ที่อยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร แกคงยังรู้สึกกลัวเลยไม่กล้านำมาเลี้ยงตรงที่เกิดเหตุฟ้าผ่า อย่างไรก็ตาม ฝากถึงชาวไร่ชาวนา ซึ่งช่วงนี้มีพายุฝนฟ้าคะนอง และจะเกิดฟ้าผ่าขึ้น ไม่อยากให้นำวัวนำควายไปเลี้ยงข้างนอกกลางที่โล่งแจ้ง ให้เฝ้าระมัดระวัง และให้เลี้ยงอยู่ในคอกก่อน และควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศให้ดี
ด้าน นายวิลัย บอกว่า วันเกิดเหตุตนกำลังจะผูกวัวไว้ด้านหลังเถียงนา ฟ้าก็ผ่าลงที่ต้นสะเดาข้างเถียงนา ซึ่งเป็นที่นาของน้าตนเอง พอไปผูกตัวสองฟ้าก็ผ่าลงมาเลย เห็นแค่กระแสไฟฟ้าผมก็หงายท้องลงกับพื้น หมดสติไปชั่วขณะ ประมาณ 10 นาที พอได้สติก็จะลุกขึ้น แต่ก็ลุกขึ้นไม่ได้เพราะขาชาไม่รู้สึกทั้ง 2 ข้าง กระทั่งญาติและภรรยามาเห็น จึงโทรแจ้งกู้ชีพมาช่วยนำส่งโรงพยาบาล ตอนนี้ไม่เสี่ยงเอาไปเลี้ยงข้างนอก เลี้ยงไว้ในคอกดีกว่า หาหญ้าหาซื้อฟางมาให้วัวกินที่คอกเอา ให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน ตนขอขอบคุณผีปู่ย่าตายาย ผีไร่ผีนาที่ช่วยตนให้รอดชีวิตมาได้ เพราะหากใครโดนฟ้าผ่า ปกติก็ไม่มีเหลือรอดชีวิต น่าจะเป็นคนแรกที่รอดชีวิตมาได้ ส่วนวัวก็ไม่เป็นอะไรเลย ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็เยอะ เหลือแต่ฟ้านี่แหละที่ลงมาใส่ตนเป็นครั้งแรก แต่ตนกลับรอดมาได้ ทั้งที่ตนก็ไม่ได้สาบานกับใครไว้ แค่หาอยู่หากินไปด้วยความจริงใจ ชอบทำบุญ และไม่เคยคิดร้ายกับใครด้วย