ราคายางร่วง เกษตรกร 5 ล้านครัวเรือน เดือดร้อน ยื่นหนังสือ รมว.เกษตรฯ-พาณิชย์ วอนช่วย

ราคายางร่วง เกษตรกร 5 ล้านครัวเรือน เดือดร้อน ยื่นหนังสือ รมว.เกษตรฯ-พาณิชย์ วอนช่วย

เมื่อวันที่ 16 เมษายน รายงานจากชมรมชาวสวนยาง จ.สงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์ยางพารา จากราคายางที่เคยเคลื่อนไหวในระดับเกือบ กก.ละ 67 บาท มาระยะหนึ่ง แต่มาเมื่อวันที่ 8 เมษายน 68 ราคาได้ปรับตัวลงประมาณ กก.ละ 10 บาท และราคาทยอยลงมาถึงวันที่ 15 เมษายน 68 อยู่ที่บางลานรับซื้อน้ำสด ประมาณ กก. 48 บาท และบางลานรับซื้อน้ำยางสด กก. 50 บาท ซึ่งแต่ละลานรับซื้อน้ำยางสดจะแตกต่างกัน

ชาวสวนยางต่างตกใจกันมาก เกี่ยวกับราคาลงมาเยอะมาก ในขณะที่ยางไม่ค่อยได้กรีดเต็มที่ เพราะน้ำยางสดยังมีปริมาณน้อยมาก

ขณะที่แหล่งข่าวจากคณะกรรมการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางระดับประเทศ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ยางราคาได้ปรับตัวลงในวันที่ 8 เมษายน 68 วันเดียวลงกก.ละ 12 บาท โดยปรับตัวลงทุกตัวตั้งแต่ยางรมควัน น้ำยางสด ยางก้อนถ้วย เศษยาง เฉลี่ยแล้วลงกก.ละ 10 บาท

“ตลาดกลางยางมีการประมูลซื้อขายที่ตลาดกลางหาดใหญ่ จ.สงขลา ตลาดกลาง จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และโดยเฉพาะสถาบันเกษตรกรยางและชาวสวนยางจะประสบกับขาดทุนและรายได้ลดลงเป็นจำนวนมาก”

รายงานว่ายางยังได้ปรับตัวลงมาจนถึงขณะนี้ ตั้งแต่วันที่ 8 เมษยน 68 เป็นเวลา 7 วัน เป็นเงินที่ชาวสวนยางจะต้องสูญหายไปเป็นจำนวนมาก แต่ในขณะที่ตลาดโลกยังมีความต้องการยาง การซื้อขายส่งออกต่างประเทศราคายางยังเป็นสัญญาเก่าที่ส่งมอบกันในระยะนี้

“รัฐบาลจะต้องมีมาตรการป้องกันเรื่องยาง โดยต้องมีโครงการการชะลอการขายยางไปก่อนโดยการสร้างสต๊อกแก้มลิงยางเอาไว้ก่อน ออกขายเมื่อราคาได้ปรับตัวที่เหมาะสม สำหรับชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรยางจะไม่มีโอกาสจะได้สต๊อกเก็บยางไว้ เพราะการใช้สถานที่เก็บสต๊อกยางจะต้องมีทุนและการลงทุนเป็นจำนวนมาก”

รายงานข่าวแจ้งว่ารัฐบาลจะต้องบังคับใช้กฎหมาย พระราชบัญญัติควบคุมยาง 42 ที่ขึ้นอยู่กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาดำเนินการอย่างเร่งด่วน ในการปรับตัวของราคายางวูบวาบ กก.ละ 10 บาท เคยขึ้นมาก่อนเหมือนกันในอดีตโดยเอาเงื่อนไข เช่น โรงงานอุตสาหกรรมยางปิดในช่วงเทศกาลตรุษจีน และยังมีเงื่อนไขต่าง ๆ อีกมากที่ส่งผลให้ราคายางต้องปรับตัวลง แต่การปรับตัวถึง 10 -12 บาท / กก.เมื่อวันที่ 8 เมษายน 68 คงจะเป็นเงื่อนไขเรื่องเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัล ทรัมป์

แหล่งข่าวจากวงการยางพารา เปิดเผยว่า นโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ประกาศขึ้นกับประเทศต่าง ๆ ไปทั่วโลก ได้มีบางกลุ่มได้ออกแบบรองรับไว้ก่อนแล้ว เมื่อมีการประกาศบังคับใช้ภาษีศุลกากรก็นำเอาเงื่อนไขมาทำราคาได้ โดยเฉพาะยางพาราในระยะ 7 วัน จะเกิดมีส่วนต่างเป็นจำนวนมาก

“ยอมรับเช่นกันว่า กลุ่มการค้าก็ต้องมีความกังวลเรื่องของความไม่แน่นอนที่มีอยู่สูง ซึ่งต่างก็อาจจะเกิดความเสี่ยงได้เช่นกันหากซื้อมาในราคาที่สูงแล้วขายออกในราคาที่ต่ำ ขณะเดียวกันทางเครือข่ายชาวสวนยางทั่วประเทศ ได้ยกร่างหนังสือขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับราคารับซื้อยางพารา ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์”

ทั้งนี้หนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมของชาวสวนยางทั่วประเทศ โดยทุกจังหวัดที่มีสวนยางพารา ทางเครือข่ายชาวสวนยางของจังหวัดนั้นๆ จะยื่นถึงศูนย์ดำรงธรรมของแต่ละจังหวัด เพราะขณะนี้ชาวสวนยางทั่วประเทศประมาณ 5 ล้านครัวเรือน กำลังประสบกับความเดือดร้อน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ