จากกรณี ชายชาวเยอรมัน วัย 46 ปี ซึ่งมีภรรยาเป็นหญิงชาวไทย และอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมคลุ้มคลั่งบุกเข้าไปก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และข่มขู่ทันตแพทย์หญิงในคลินิกทันตกรรมหลายแห่งในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเหตุเกิดขึ้นกับคลินิกทันตกรรมอย่างน้อย 6 แห่ง ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567

โดยชาวต่างชาติผู้ก่อเหตุได้แสดงพฤติกรรมรุนแรง ทั้งการทำลายข้าวของ บุกเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของทันตแพทย์หญิง รวมถึงใช้กำลังทำร้ายร่างกายทันตแพทย์หญิง เช่น จับหัวโขกผนัง และกัดปากทันตแพทย์หญิงจนได้รับบาดเจ็บ จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวและนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา จากนั้นผู้ต้องหาได้ขอประกันตัวที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา และได้กลับไปอยู่ที่บ้านพักใน อ.โนนสูง โดยทางตำรวจเตรียมทำหนังสือถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นครราชสีมา ขอให้พิจารณาเพิกถอนวีซ่า เนื่องจากถือเป็นบุคคลอันตราย

ล่าสุด ช่วงเย็นวันที่ 21 มี.ค. 2568 พ.ต.อ.สิทธิพล ทิมสูงเนิน ผกก.สภ.โนนสูง ได้รับแจ้งว่ามีคนพบศพ ผู้ต้องหาชาวเยอรมันดังกล่าว ที่ทำร้ายทันตแพทย์ นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องพัก ภายในบ้านพัก ซึ่งตั้งอยู่หน้าวัดดอนชมพู ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.โนนสูง รุดไปตรวจสอบ

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบสภาพศพนอนหงายอยู่บนเตียง สวมเสื้อกล้ามสีเทา กางเกงขาสั้น ที่ลำคอมีแผลขนาดใหญ่ เหมือนถูกของมีคมเชือด มีเลือดไหลนองพื้น และภายในห้องพบร่องรอยการรื้อค้นเอกสารและข้าวของกระจัดกระจาย โดยมีสุนัขร็อตไวเลอร์ 2 ตัวเฝ้าอยู่ไม่ห่าง

ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ก่อนที่จะพบศพนั้น เนื่องจากภรรยาที่ไปทำงานอยู่ในจังหวัดปราจีนบุรี ไม่สามารถติดต่อกับสามีได้ จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เพื่อนของสามีที่อาศัยอยู่ใน อ.เมืองนครราชสีมา มาดูที่บ้าน หลังจากนั้นเพื่อนของผู้ตายก็ได้มาที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งได้ให้ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านมาช่วยกันหาจนพบศพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง ได้ตั้งประเด็นการเสียชีวิตไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าตัวตายและถูกฆาตกรรม โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้านและบริเวณรอบบ้านเพื่อหาเบาะแสของการเสียชีวิตต่อไป