จากกรณีเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 18 มีนาคม 2568 ร.ต.ท.กิตติภูมิ อรรควิทยานุกูล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ห้องจ่ายยาผู้ป่วยนอก ชั้น 2 อาคารอำนวยการ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.เมืองอุดรธานี, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน, พ.ต.อ.อารี สินธุรา รองนายกเทศมนตรี, เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมรถดับเพลิง 4 คัน, เจ้าหน้าที่ ปภ. และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารอำนวยการ 7 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหน้าติดถนนเพาะนิยม โดยชั้น 1 เป็นห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และตรวจผู้ป่วยนอก ส่วนชั้น 2 เป็นห้องจ่ายยาผู้ป่วยนอกที่มีการติดตั้งหุ่นยนต์จ่ายยา ฟามาซีโรบอท เพลิงไหม้เกิดขึ้นบริเวณเบรกเกอร์และตู้ควบคุมระบบโรบอท เจ้าหน้าที่ใช้ถังฉีดดับเพลิงควบคุมเพลิงได้ภายในเวลา 20 นาที

อย่างไรก็ตาม หลังจากควบคุมเพลิงได้แล้ว เกิดกลุ่มควันจำนวนมากจากห้องที่เต็มไปด้วยยาหลายชนิด เมื่อยาเจอความร้อนและน้ำ ทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี โดยเฉพาะแอมโมเนีย ส่งกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ทำให้นักผจญเพลิงบางรายที่ไม่ได้สวมชุดป้องกันสารเคมีเกิดอาการสำลักและอาเจียน นักผจญเพลิงที่เชี่ยวชาญด้านสารเคมีจึงต้องเข้ามาติดตั้งอุปกรณ์ดูดควันเพื่อระบายอากาศ

หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่าต้นเพลิงอยู่บริเวณตู้ควบคุมระบบไฟของหุ่นยนต์จ่ายยา ซึ่งคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เหตุเกิดราวสองทุ่มเศษ บริเวณห้องจ่ายยาชั้น 2 เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ รับแจ้งจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีว่า ได้นำเอาระบบการจ่ายยาด้วยหุ่นยนต์ (ฟามาซีโรบอท) ที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ ซึ่งต้นเพลิงเกิดบริเวณจุดควบคุมระบบหุ่นยนต์ โดยระบบนี้เพิ่งนำมาทดสอบใช้ไม่นาน ยังต้องรอยืนยันการตรวจสอบอีกครั้ง เบื้องต้นที่เข้าไปตรวจสอบด้วยตนเอง จะเป็นบริเวณตู้ของระบบไฟ

ทั้งนี้ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ได้ร้องขอให้มีการย้ายยาที่ต้องเก็บในความเย็นไปเก็บรักษาในที่ที่เหมาะสม และรายงานว่าได้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุทุกขั้นตอน รวมถึงการย้ายผู้ป่วยที่อยู่บริเวณใกล้เคียงออกไปอย่างปลอดภัย ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ควบคุมพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่เทคนิคของหุ่นยนต์จ่ายยาทำงานร่วมกัน

ด้าน นพ.โอฬาร วิวัฒนาช่าง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า “เหตุเกิดบริเวณห้องจ่ายยาชั้น 2 อาคารอำนวยการและอุบัติเหตุ ยังไม่ชัดเจนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เกิดบริเวณไหน รวมทั้งกรณีหุ่นยนต์จ่ายยาที่เข้ามาทดลองใช้ จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ขณะนี้เรากำลังสำรวจความเสียหายว่า จะสามารถเปิดบริการส่วนไหนได้ หรือไม่สามารถบริการส่วนไหนได้”

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการให้บริการจะสามารถกลับมาเปิดได้บางส่วนในวันพรุ่งนี้ โดยโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานียังเปิดให้บริการตามปกติ แต่อาจไม่ได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่ แต่จะพยายามบริการให้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด