จากกรณีเกิดอุบัติเหตุสลด รถไฟสายกันตัง-กรุงเทพฯ พุ่งชนรถกระบะ บริเวณทางลักผ่าน ทำให้คนงานจับกุ้งกุลาดำกระเด็นตกรถเสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บอีก 3 คน ตำรวจตรวจวัดแอลกอฮอล์ ทั้งคนขับรถไฟและรถกระบะ ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ แต่พบสารเสพติดในร่างกายคนขับรถกระบะ

บริเวณจุดตัดทางรถไฟ พื้นที่หมู่ 2 บ้านพรุใหญ่ ตำบลบางหมาก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง พบชาวบ้านจำนวนมาก ไปยืนดูอุบัติเหตุรถไฟชนรถกระบะด้วยความสนใจ เนื่องจากจุดนี้ เคยเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์หลายครั้ง แต่ไม่เคยมีผู้เสียชีวิต กระทั่งครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตถึง 4 คน และบาดเจ็บอีก 3 คน เป็นคนงานจับกุ้งกุลาดำ

ตำรวจ สภ.กันตัง ไปตรวจสอบพบรถกระบะสีเทา ถูกชนด้านหน้าพังเสียหาย ห่างออกไปมีขบวนรถไฟ ขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง-กรุงเทพอภิวัฒน์ จอดนิ่งสนิทอยู่บนราง

พนักงานขับรถไฟ บอกว่า ขณะรถไฟกำลังขับผ่านจุดตัด เห็นรถกระบะอยู่ด้านหน้าประมาณ 200 เมตร ได้ส่งสัญญาณเสียงเตือน และเห็นคนที่นั่งท้ายรถกระบะตกใจยืนขึ้น แต่คนขับยังไม่รับรู้ ยังขับรถผ่านจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น

ด้าน นายสุรชัย อายุ 41 ปี คนขับรถกระบะ ไม่ได้รับบาดเจ็บ บอกว่า กำลังพาคนงาน รวม 11 คน ไปรับจ้างจับกุ้งกุลาดำที่ จังหวัดกระบี่ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ยืนยันไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนหรือเสียงหวูดรถไฟเลย ก่อนถูกรถไฟพุ่งชนท้ายอย่างแรง

ตำรวจได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ทั้งคนขับรถไฟและคนขับรถกระบะไม่พบว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่พบสารเสพติดในตัวคนขับรถกระบะ ซึ่งยอมรับว่าเสพยาเสพติดมา จึงคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาท เสพยาเสพติด

ล่าสุด นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ รฟท. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบเป็นทางลักผ่านที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้รับอนุญาตจากการรถไฟฯ แต่เพื่อความปลอดภัย ได้ติดตั้งสัญญาณเตือน ป้ายจราจร ไฟกะพริบ ป้ายข้อความเตือนทั้งสองด้าน เพิ่มความปลอดภัยให้ประชาชน จึงขอเน้นย้ำผู้ขับขี่ หากผ่านจุดตัดต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการบาดเจ็บและสูญเสีย