รวบแล้ว! ไอ้เคี่ยม อดีตนักมวย ต่อยแม่บังเกิดเกล้า เสียชีวิตสลดในบ้าน

รวบแล้ว! ไอ้เคี่ยม อดีตนักมวย ต่อยแม่บังเกิดเกล้า เสียชีวิตสลดในบ้าน

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 มี.ค.68 ที่ผ่านมา กู้ชีพร่วมใจ จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุ เกิดเหตุฆาตกรรมลูกฆ่าแม่ จากนั้น กู้ภัยร่วมใจ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณ ม.3 ต.เกาะเปียะ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง

โดยที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดียว ตรวจสอบในบ้านพัก บริเวณห้องครัวตรงจุดหน้าห้องน้ำ พบร่างของ นางสุดารัตน์ อายุ 47 ปี สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว ลักษณะนอนตะแคงคว่ำหน้า และมีเลือดไหลออกมาบริเวณศีรษะ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิต คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24 ชั่วโมง ต่อมาทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายณัฐพล อายุ 28 ปี หรือ นายเคี่ยม ซึ่งเป็นอดีตนักมวย และเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิตซึ่งหลังจากก่อเหตุ ได้ทิ้งร่างแม่เอาไว้และหลบหนีไปพร้อมรถจักรยานยนต์ และยังได้มีการโพสต์เฟสบุ๊คลงรูปภาพศพแม่ พร้อมกับรูปฝ่ามือ โดยใส่แคปชั่นว่า "ยมบาล คมหักเหลี่ยมตะวัน + เรียบร้อย"

ล่าสุดวันที่ 2 มี.ค. 68 ตำรวจตามรวบตัวไอ้เคี่ยมได้แล้วในพื้นที่สภ.เมืองนครปฐม หลังจากไอ้เคี่ยมได้ขี่รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดง- ขาว เลขทะเบียน 1 กล 8512 ตรัง ผ่านทางหน้าพระและเลี้ยวซ้ายบริเวณไฟแดงจุดโพธิ์ทอง มาเจอรองสารวัตรจราจรพอดี ตอนนั้นสภาพนายณัฐพลฯ (ไอ้เคี่ยม) ตาลอยไม่พูดไม่จา

ทางรองสารวัตรฯ ได้พูดคุยและสอบถามทางนายณัฐพล ว่าจะไปไหน ทางนายณัฐพลตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผมจะไปไหนไม่ทราบ ทางรองสารวัตรก็สอบถามอีกรอบว่าจะไปไหน จึงสงสัยว่าทำไม รถจยย. คันที่นายณัฐพลขี่นั้นเป็นจังหวัดตรังมาไกลมาก ทางรองสารวัตร จึงได้แจ้งกับนายณัฐพล ว่าให้นำรถจยยเข้าสภ.เมืองก่อนเพื่อที่ทำการตรวจ

นายณัฐพล จึงใช้โทรศัพท์เพื่อที่ทำการโทรไปที่จังหวัดตรัง จากนั้นรองสารวัตรได้มีการพูดคุยกับปลายสาย น้ำเสียงของปลายสาย เสียงเหมือนคนตกใจ ทางปลายสายถามว่าตอนนี้ อยู่กับ นายณัฐพลใช่ไหม และอย่าเพิ่งปล่อยตัวไปไหนนะ

รองสารวัตรจึงสอบถามย้อนกลับไปว่ามีอะไร ทางปลายสายบอกว่า มันฆ่าแม่ จากนั้นรองสารวัตรได้มีการพูดคุยกับนายณัฐพล ว่าเข้าไปนั่งในห้องแอร์เย็นๆก่อน เดี๋ยวมีคนนำเงินมาเสียค่าปรับให้ จากนั้นทางรองสารวัตรได้มีการรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาฆ่าแม่ได้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ