วันที่ 27 ก.พ.2568 นางจุฑามาศ เชื่อเมือง อายุ 28 ปี พนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังถูกชายคนหนึ่งลักษณะเหมือนคนเมาสุราเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยจ้วงหมัดใส่ไม่ยั้งมือจนกระทั่งล้มลงไปกับพื้นแล้วถูกกระทืบซ้ำ ก่อนจะมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยห้ามปราม พร้อมกับโทรแจ้งตำรวจให้มาควบคุมตัวชายที่ก่อเหตุเอาไว้

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ร้านหน้าเสริมสวยแห่งหนึ่งบนถนนจันทร์ทองเอี่ยม ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ นนทบุรี เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุนางจุฑามาศ ผู้เสียหายได้เดินทางไปตรวจสภาพร่างกายที่โรงพยาบาลก่อนจะเดินทางมาเข้าแจ้งความ

นางจุฑามาศ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อนได้ชวนตนไปเป็นเพื่อนที่ร้านเสริมสวยเพื่อไปทำผม ระหว่างที่เพื่อนเข้าไปทำผมอยู่นั้น ตนออกมานั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ที่หน้าร้าน ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งเดินคุยโทรศัพท์มาเหมือนคนเมาสุรา แล้วมาหยุดตรงที่ตนนั่งอยู่พร้อมกับพูดจาโวยวายอะไรก็ไม่รู้ ตนก็นั่งเฉย ๆ ทำเป็นไม่สนใจ เขาก็ยืนโวยวายอยู่อีกสักพักใหญ่ แต่ตนก็ไม่สนใจ

จนกระทั่งชายคนดังกล่าวเอามือมาลูบที่ขาตน ตนก็ใช่มือปัดออกไป จากนั้นเขาก็พยามขอโทษตน แต่ตนก็ทำเฉยไม่สนใจอีก ชายคนดังกล่าวจึงพูดว่าตบมาเลยๆ ตนจึงตบไปที่ต้นคอชายคนดังกล่าวแต่ไม่แรง จากนั้นจึงถูกชายคนดังกล่าวระดมต่อยใส่หน้าตนไม่ยั้งจนล้มลงไปกับเพื่อน ก่อนที่จะมีคนเข้ามาช่วยเหลือแล้วแจ้งตำรวจให้มาจับตัวชายคนดังกล่าวไป

จากนั้นตนจึงเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและเดินทางมาเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก้อเหตุในข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนกับชายที่ก่อเหตุไม่เคยรู้จักกันหรือมีเรื่องอะไรมาก่อน

ในเวลาต่อมา น.ส.พนิดา อายุ 38 ปี ภรรยาคนก่อเหตุ เดินทางมาที่โรงพัก สภ.บางบัวทอง เพื่อเยี่ยมนายนิตินันท์ เมฆฉาย อายุ 40 ปี ช่างซ่อมมือถือคนก่อเหตุ ซึ่งเป็นสามีระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังของโรงพัก เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุสามีได้ออกจากบ้านเพื่อจะไปที่ร้านตัดผม แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นสามีกลับแวะไปร้านขายของและนั่งดื่มเหล้าจนเกิดอาการตามมา

สามีตนนั้นเป็นคนแพ้เหล้ามาก เพราะเมื่อกินเหล้าเข้าไปทีไร นิสัยจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน โมโห หงุดหงิด อารมณ์ร้อนจนมีปากเสียงกับตนเป็นประจำ ถึงกับขนาดที่ว่าตนต้องให้สามีสัญญาว่าจะไม่กินเหล้าโดยเด็ดขาด เพราะกินเหล้าไปทีไรเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้วก็มามีปัญหามีปากเสียงกับตนทุกครั้ง แต่ถ้าหากเขากินเบียร์เขาจะไม่อาการแบบนี้เลย ตนคิดว่าก่อนเกิดเรื่องสามีตนคงแวะกินเหล้าจนเมาแล้วเดินโวยวายมาเจอผู้เสียหายจนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน

ที่หน้าร้านเสริมสวยที่เกิดเหตุ พบกับน.ส.ณัฐกาณต์ อายุ 43 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย เปิดเผยว่า ระหว่างที่ตนกำลังทำผมให้กับลูกค้าอยู่ในร้าน ได้ยินเสียงคนโวยวายอยู่ที่หน้าร้าน เมื่อหันไปดูก็เห็นว่าชายคนก่อเหตุกำลังไล่ชกใส่หญิงสาวอยู่ที่หน้าร้านอุตลุด

จนกระทั่งตนกับชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต้องเข้าไปช่วยเหลือ ชายคนดังกล่าวจึงหยุดลงมือ ตนถามคนเจ็บบอกว่า ถูกชายคนก่อเหตุเข้ามาใช้มือที่ลูบต้นขาจึงได้ใช้มือฟาดไปที่หน้าของคนก่อเหตุ จึงถูกคนก่อเหตุต่อยใส่เข้าที่ใบหน้าจนเบ้าตาเขียวช้ำและหน้าผากปูดบวม

ด้าน น.ส.ชรีรัตน์ อายุ 45 ปี ชาวบ้านที่เข้ามาช่วยเหลือ เปิดเผยว่า ตนเห็นเหตุการณ์ที่หน้าร้านเสริมสวยว่ามีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังมีปากเสียงกันอยู่ ซึ่งในตอนแรกตนนึกว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกันแล้วมีปากเสียงกัน พอฝ่ายหญิงใช้มือฟาดไปที่ใบหน้าชายคนดังกล่าว ชายคนนั้นก็ชกเข้าที่ใบหน้าของฝ่ายหญิงไม่ยั้งมือ

จนกระทั่งตนได้ยินฝ่ายหญิงร้องตะโกนว่า ชายคนนี้ไม่ใช่แฟนและไม่ใช่คนรู้จักมาทำร้าย ตนกับชาวบ้านจึงรีบข้ามถนนไปช่วยเหลือ ชายคนดังกล่าวจึงหยุดลงมือ ส่วนฝ่ายหญิงถูกชกจนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าปูดบวมและเขียวช้ำ ซึ่งชายคนดังกล่าวตนเคยเห็นเขาเดินผ่านไปมาแถวนี้เป็นประจำ แต่ไม่ได้รู้จักกัน ลักษณะเขาตอนก่อเหตุเหมือนคนเมาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ได้แต่พูดว่าก็ขอโทษไปแล้วอยู่แบบนั้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมานำตัวไปที่โรงพัก

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากับนายนิตินันท์ เมฆฉาย ช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือในข้อหาเมาสุราอาละวาด ประพฤติตนวุ่นวายก่อน ส่วนคดีทำร้ายร่างกายนางจุฑามาศ หญิงสาวผู้เสียหายจะต้องรอผลตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลเพื่อนำมาประกอบสำนวนพร้อมกับแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นต่อไป