เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 1ตำบลลานข่อย อ ป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง หลังได้รับการร้องเรียน จากนายยูโซ๊ะ อายุ 63 ปี อ้างว่า ถูกลูกสาวคนเล็ก อายุ 39 ปี โกงเงิน 3 แสนบาท พร้อมรถกระบะ 1 คัน จนสิ้นเนื้อประดาตัว หมดเงินเก็บก้อนสุดท้าย แถมยังถูกลูกสาวด่า และมีพฤติกรรมประชดประชัน บีบให้ออกจากบ้าน สุดท้ายไร้ที่อยู่ ต้องอาศัยบ้านของชาวบ้านซุกหัวนอน ทำงานรับจ้างทั่วไป เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายรายวัน

นายยูโซ๊ะ เล่าว่า เดิมมีภรรยา และลูกสาว 2 คน ชื่อ เปิ้ล และปอย แต่ต้องเลิกกับภรรยา ตั้งแต่ลูกคนเล็ก อายุได้ 2 ปี โดยเขาออกจากบ้านไปมีภรรยาใหม่ อยู่ที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ต่อมาเมื่อต้นปี 2566 ปอย ลูกคนเล็ก ได้ติดต่อ และไปหาตนที่ อ สะบ้าย้อย พร้อมได้ขอยืมเงิน บอกว่าจะนำมาปล่อยเงินกู้ ตนจึงนำเงินที่เก็บสะสมไว้ 300,000 บาทให้ไป จากนั้นประมาณ 2 เดือน ลูกสาวไปรับตนมาอยู่ที่บ้านในพื้นที่ ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม บอกว่าให้มาช่วยทำบ้านให้หน่อย จึงหาคนงานเพื่อเริ่มก่อสร้างบ้านให้กับลูกสาว โดยได้ไปค้างค่าอุปกรณ์ก่อสร้างมาจากร้านขายวัสดุก่อสร้าง จำนวน 40,000 บาท พอถึงกำหนดจ่ายเงินลูกสาว กลับบอกว่าไม่มีเงิน

หลังจากนั้นลูกสาว มีพฤติกรรมด่าประชดประชัน รวมทั้งแกงเนื้อหมู วางไว้ในตู้กับข้าว ทั้งที่รู้ว่าตนนับถือศาสนาอิสลาม สุดท้ายตนก็ต้องออกจากบ้านลูกสาวคนเล็ก และไปขออาศัยเพื่อนบ้านอยู่ ซึ่งตนยอมให้ลูกทุกอย่าง แม้กระทั่งรถ จยย.สามล้อพ่วง มาแลกกับรถยนต์กระบะ ที่ใช้ทำมาหากิน

โดยเหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รถ.จยย สามล้อพ่วง ลูกสาวแอบเอาไป ตนจึงตามไปเอากลับ เพราะไม่มีรถใช้เดินทางไปทำงานรับจ้างทั่วไป จนทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันอีกครั้ง ครั้งนี้ลูกสาวด่าอย่างรุนแรง ระบุว่าไม่เคยนับถือว่าเป็นพ่อ ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย คำว่าไอ้สัตว์หมา ซึ่งคำด่าของลูก ตนเสียใจเป็นที่สุด จุกจนพูดไม่ออก เพราะให้ทุกอย่างกับลูก แม้แต่เงินที่เอาไว้กินยามแก่ ไม่คิดว่าลูกจะมาทำแบบนี้ และต้องมาไร้ที่อยู่เช่นนี้ หลังจากนี้จะเข้าร้องเรียนหน่วยงานของรัฐ ให้ช่วยเป็นคนกลางในการเจรจาขอเงินคืนจากลูกสาว